วันอังคารที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2560

เปรียบเทียบ Nokia 8 และ Samsung Galaxy S8 เรือธงรุ่นใหม่ล่าสุดจากสองค่ายใหญ่

เปรียบเทียบ Nokia 8 และ Samsung Galaxy S8 เรือธงรุ่นใหม่ล่าสุดจากสองค่ายใหญ่

เปรียบเทียบ Nokia 8 และ Samsung Galaxy S8 เรือธงรุ่นใหม่ล่าสุดจากสองค่ายใหญ่

thaimobilecenter

สนับสนุนเนื้อหา

เปรียบเทียบ  และ Samsung Galaxy S8 เรือธงรุ่นใหม่ล่าสุดจากสองค่ายใหญ่ รุ่นใดฟีเจอร์ไฮเอนด์จัดเต็มครบครันกว่ากัน เรามีคำตอบ!

ในที่สุดก็เปิดตัวอย่างเป็นทางการเรียบร้อยแล้วสำหรับ Nokia 8 สมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นแรกภายใต้แบรนด์ Nokia หลังจากที่ปล่อยสมาร์ทโฟนระดับกลางอย่าง Nokia 6, Nokia 5 และ Nokia 3 รวมถึงฟีเจอร์รุ่นอื่นๆ มาทำตลาดก่อนตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมา เรียกได้ว่า Nokia 8 มาพร้อมกับความไฮเอนด์แบบครบครันในทุกองค์ประกอบ ไม่ว่าจะเป็น หน้าจอคมชัดระดับ 2K QHD, ชิปเซ็ต Snapdragon 835 และกล้องถ่ายภาพแบบคู่ (Dual-Camera) พร้อมเลนส์ Carl Zeiss ทั้งด้านหน้า และหลัง รวมถึงคุณสมบัติในการป้องกันน้ำ-ป้องกันฝุ่น ก็รองรับใน Nokia 8 รุ่นใหม่นี้ด้วยเช่นเดียวกัน

สำหรับสมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นที่ได้รับความสนใจจากทั้งสื่อ และผู้ใช้ทั่วโลกตั้งแต่เปิดตัวอย่างเป็นทางการจนกระทั่งขณะนี้จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก Samsung Galaxy S8 ที่มาพร้อมกับการพลิกโฉมดีไซน์หน้าจอไร้ขอบแบบใหม่ รวมถึงอัปเกรดฟีเจอร์ภายในขึ้นจากรุ่นก่อนในหลายด้าน รวมถึงรองรับผู้ช่วยอัจฉริยะอย่าง Bixby และการสแกนม่านตา (Iris Scanner) ที่ช่วยยกระดับมาตรฐานการรักษาความปลอดภัยขึ้นไปอีกขั้น

และด้วยความโดดเด่นแบบกินกันไม่ลงของทั้งสองรุ่นนี้ ทางทีมงาน Thaimobilecenter จึงได้นำ Nokia 8 และ Samsung Galaxy S8 มาทำการเปรียบเทียบฟีเจอร์ และคุณสมบัติเด่นให้ได้ชมกันแบบช็อตต่อช็อต ว่าทั้งสองรุ่นมีความโดดเด่นในด้านใดบ้าง และจะแตกต่างกันมากน้อยเพียงใด หากพร้อมแล้วเชิญติดตามการเปรียบเทียบอย่างละเอียดที่ตารางด้านล่างนี้ได้เลยค่ะ


untitled-2

 

เป็นอย่างไรกันบ้างคะในการเปรียบเทียบสมาร์ทโฟนเรือธงที่ปีของสองค่ายยักษ์ใหญ่ในแวดวงสมาร์ทโฟน จะเห็นได้ว่าแต่ว่าละรุ่นก็มาพร้อมฟีพบร์ระดับท็อปอย่างครบถ้วน และมีความสะดุดตาในด้านที่แตกต่างออกไปอย่างชัดเจน โดย Nokia 8 มากับหน้าจอขนาดกะทัดรัดที่ 5.3 นิ้ว ความละเอียดระดับ 2K Quad HD พร้อมขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ต Snapdragon 835 แล้วก็มีหน่วยความจำแรม(RAM) ขนาด 4GB โดยมีปริมาตร 64GB ที่สามารถเพิ่มการ์ดหน่วยความจำภายนอกแบบ microSD อีก 256GB รวมทั้งมีแบตเตอรี่ปริมาตร 3090 mAh พร้อม Fast Charge บนระบบปฏิบัติการ Android 7.1.1 Nougat และรองรับ Google Assistant

Nokia 8 มาพร้อมกล้องถ่ายรูปคู่ (Dual-Camera) ที่ข้างหลังความละเอียด 13 13 ล้านพิกเซล พร้อมเลนส์ Carl Zeiss ทั้งยังข้างหน้า-ด้านหลัง รองรับระบบคุ้มครองปกป้องภาพสั่นไหวแบบ OIS และกล้องถ่ายรูปหน้าความละเอียดเสมอกันที่ 13 ล้านพิกเซล โดยมีขนาดรูรับแสงกว้างสูงสุดที่ F/2.0 ซึ่งตัวเครื่องรองรับคุณสมบัติการปกป้องคุ้มครองน้ำ และคุ้มครองฝุ่นที่ติดอยู่ตามมาตรฐาน IP57 รวมทั้งเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ (Fingerprint Scanner) รวมทั้งการเชื่อมต่อแบบ USB Type-C ซึ่งมีราคาเปิดตัวที่ 599 ยูโร (ราว 23,500 บาท)

สำหรับ Samsung Galaxy S8 มีข้อดีในด้านการออกแบบโฉมใหม่ที่มีหน้าจำสำหรับแสดงผลไม่มีขอบแบบInfinity Display ขนาดใหญ่ขึ้นที่ 5.8 นิ้ว บนตัวเครื่องขนาดเท่ารุ่นเดิม พร้อมชัดเจนระดับ 2K QHD รวมทั้งขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ต Exynos 8895 พร้อม RAM 4GB, ROM 64GB ที่สามารถเพิ่มการ์ด microSD ได้อีก 256GB บนระบบปฏิบัติการ Android 7.1.1 Nougat โดยมีแบตเตอรี่ปริมาตร 3000 mAh พร้อมระบบ Fast Charge และรองรับปัญญาประดิษฐ์อย่าง Bixby

Samsung Galaxy S8 ใช้งานกล้องที่มีไว้สำหรับถ่ายภาพแบบ 100% AF Dual Pixel ควมละเอียด 12 ล้านพิกเซลที่มีขนาดรูรับแสงสว่างกว้างสูงสุดที่ F/1.7 พร้อมรองรับระบบคุ้มครองป้องกันภาพสั่นไหวแบบ OIS และกล้องถ่ายรูปหน้าสำหรับเซลฟี้ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รวมทั้งรองรับเซ็นเซอร์สแกนลายพิมพ์นิ้วมือ (Fingerprint Scanner), เซ็นเซอร์สแกนม่านตา (Iris Scanner) แล้วก็การเชื่อมต่อแบบ USB Type-C บนตัวเครื่องคุ้มครองน้ำ-คุ้มครองป้องกันฝุ่นตามมาตรฐาน IP68 ซึ่งสามารถจองเป็นเจ้าของได้แล้ววันนี้ในราคา 27,900 บาท

อย่างไรก็ดี นอกจากไปจากคุณภาพการทำงาน แล้วก็คุณสมบัติเด่นในด้านต่างๆแล้ว ความชอบ และก็รสนิยมส่วนบุคคลก็ถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ไม่สมควรมองข้ามสำหรับเพื่อการเลือกซื้อมือถือสักเครื่องหนึ่ง ดังนี้จึงขึ้นกับเพศผู้ใช้เองว่ามีความต้องการสมาร์ทโฟนที่เด่นในด้านใด เพื่อตอบโจทย์การใช้แรงงานในไลฟ์สไตล์ของท่านได้ดิบได้ดีที่สุด ซึ่งถ้าว่าได้ทดลองใช้งานในพื้นฐานแล้วเกิดความชอบใจทั้งในด้านการทำงาน, ดีไซน์ และราคา ก็ถือว่าสมาร์ทโฟนรุ่นนั้นมีคุณค่าต่อการจองเป็นเจ้าของแล้วค่ะ สำหรับวันนี้ทางคณะทำงานจะต้องขออำลาไปก่อน แล้วพบกันได้ใหม่ในบทความหน้า สวัสดีค่ะ

 

สรุปข้อมูล และข่าวอัปเดตล่าสุดของ Nokia 8

สรุปข้อมูล และข่าวอัปเดตล่าสุดของ Samsung Galaxy S8
สรุปคุณสมบัติโดยละเอียดของ Samsung Galaxy S8
รีวิว (Review) Samsung Galaxy S8

 

รวมเรื่องราว nokia 8 ที่นี่ คลิ๊ก!!!

สนับสนุนเนื้อหา http://hitech.sanook.com/1432121/

7 พฤติกรรมทำร้าย “ไต” ทั้งที่ไม่ได้กินเค็ม!

7 พฤติกรรมทำร้าย “ไต” ทั้งที่ไม่ได้กินเค็ม!

หากพูดถึงโรคไต หลายคนคงคิดออกตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้ยินว่า “เพราะทานเค็มมากเกินไป” แต่ Sanook! Health จะมาบอกว่า ไม่ใช่อาหารรสเค็มเท่านั้นที่เป็นสาเหตุของโรคไต คุณอาจยังไม่ทราบ และเผลอทำร้ายไตของตัวเองไปโดยไม่รู้ตัว!

โรคไต เป็นชื่อที่เรียกรวมอาการ และ/หรือความผิดปกติที่เรียกว่า พยาธิสภาพ ที่เกิดขึ้นบริเวณไตที่ทำให้การทำงานเพื่อขับของเสียออกจากร่างกายและการรักษาความสมดุลของเกลือ รวมถึงน้ำในร่างกายมนุษย์เกิดภาวะขัดข้อง ซึ่งโรคที่เกิดขึ้นกับไตมีอยู่ด้วยกันหลายประเภท ได้แก่

โรคไตวายฉับพลัน
โรคไตวายเรื้อรัง ที่เกิดขึ้นตามหลังจากการเกิดโรคเบาหวาน หรือโรคความดันโลหิตสูง
โรคไตอักเสบเนโฟรติก
โรคไตอักเสบจากภาวะภูมิคุ้มกันสับสน
โรคติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ
โรคถุงน้ำที่ไต
สาเหตุของการเกิดโรคไต

ผู้ป่วยเป็นมาตั้งแต่กำเนิด อาทิ มีไตข้างเดียว หรือไตนั้นมีขนาดไม่เท่ากัน หรืออาจเป็นโรคไตเป็นถุงน้ำ โดยโรคเหล่านี้สามารถสืบต่อกันได้ทางกรรมพันธุ์ด้วย
เกิดจากการอักเสบ อาทิ โรคของกลุ่มเลือดฝอยในไตอักเสบ
เกิดจากการติดเชื้อ ซึ่งเกิดการติดเชื้อจากแบคทีเรียเป็นส่วนใหญ่ อาทิ กรวยไตอักเสบ ไตเป็นหนอง หรือกระเพาะปัสสาวะอักเสบ
เกิดจากการอุดตัน อาทิ จากนิ่ว ต่อมลูกหมากโต หรือมะเร็งมดลูกไปกดท่อไต
เกิดเนื้องอกขึ้นที่ไต ซึ่งมีอยู่หลายชนิด

นอกจากนั้นแล้ว พฤติกรรมการใช้ชีวิตก็เป็นสิ่งสำคัญที่อาจทำให้เกิดปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคไตได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการอาหารการกิน การใช้ชีวิต การทำงาน หรือแม้แต่การต้องทนอยู่ท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยแรงกดดัน ฉะนั้น ลองมาดูกันดีกว่าว่า 7 พฤติกรรมแบบไหนที่อาจทำร้าย “ไต” ของเราได้

1. ทานอาหารรสจัด

ไม่ใช่แค่รสเค็มจัด แต่อาหารรสจัดรวมไปถึง อาหารหวานจัด เผ็ดจัด หรือแม้กระทั่งมันจัด อาหารรสจัดทำให้ไตทำงานหนักขึ้น จึงมีส่วนทำให้เป็นโรคไตได้เช่นเดียวกันกับอาหารรสเค็ม

2. ไม่ออกกำลังกาย

การไม่ออกกำลังกายเป็นสาเหตุของหลายๆ โรค ไม่ว่าจะเป็นโรคอ้วน ไขมันอุดตันเส้นเลือด ไขมันพอกตับ เส้นเลือดอุดตัน โรคหัวใจ และอื่นๆ รวมไปถึงโรคไตด้วยเช่นกัน

3. ดื่มน้ำน้อย หรือมากเกินไป

การดื่มน้ำน้อยเป็นสาเหตุของหลายๆ โรคเช่นกัน (อ่าน 6 โรคร้ายถามหา ถ้า “ดื่มน้ำน้อย”) รวมไปถึงโรคไตด้วย เพราะไตฟอกของเสียในร่างกาย และต้องใช้น้ำเป็นตัวพาไปสู่งานกรองของไตจนกลายสดปัสสาวะ หากดื่มน้ำมากเกินไป ไตก็จะทำงานหนักเกินไป แต่หากดื่มน้ำน้อยมากเกินไป (ซึ่งมีโอกาสมากกว่า) ก็จะทำให้ปัสสาวะมีสีเข้ม ซึ่งไม่ดีต่อไต และกระเพาะปัสสาวะด้วย

4. ทำงานหนักเกินไป

เชื่อหรือไม่ว่าการทำงานหนักก็เป็นสาเหตุของโรคไตเกี่ยวกับเช่นกัน เพราะเมื่อร่างกายขาดการพักผ่อนที่เพียงพอ อวัยวะภายในร่างกายก็จะไม่ได้รับการฟื้นฟู และซ่อมแซมตัวเองอย่างเต็มที่ด้วยเช่นเดียวกัน เมื่ออวัยวะที่คอยฟอกของเสียในร่างกายอย่างไตไม่ได้หยุดทำงาน ก็อาจทำให้ไตเสื่อมสภาพลงได้ง่าย

5. ความเครียด

กระแสความเครียดมักมาครบถ้วนกับการทำงานหนัก สมมติเครียดมากๆ ร่างกายก็จะพักผ่อนได้ไม่เต็มที่เช่นเดียวกัน นอกจากนี้เมื่อเราเครียด เราจะหายใจเอาออกซิเจนเข้าร่างกาย เพื่อไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ได้ไม่เต็มที่ และไตก็เป็นอวัยวะที่ได้รับผลกระทบจากความเครียดด้วยเช่นกัน

6. ทานอาหารสำเร็จรูป

แม้ว่าคุณกล้าหาญจะบอกว่าไม่ใช่สิ่งมีชีวิตทานเค็ม แต่หากคุณกินชีวิตวนเวียนอยู่กับบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ข้าวกล่องในร้านสะดวกซื้อ อาหารกระป๋องต่างๆ หรือแม้กระทั่งน้ำอัดลม โซดา และเครื่องดื่มบางประเภท คุณจะได้รับโซเดียมเข้าไปในร่างกายในปริมาณสูงโดยที่คุณไม่รู้ตัว ดังตรงนั้นทานให้บางตาลงหน่อยนะ

7. ความดันโลหิตสูง

สมมติว่าใครมีอยู่อาการความดันโลหิตสูงหมายถึงทุนเดิมอยู่แล้ว ยิ่งมีโอกาสที่จะยังไม่ตายโรคไตตามมาด้วย เพราะหากปล่อยให้เป็นความดันสูงต่อไปเรื่อยๆ โดยไม่รีบรักษา ความดันโลหิตสูงนี้จะทำลายเส้นเลือดที่ไต ทำให้ไตถูกทำลาย หรืออาจเรียกว่าเป็น “ไตวายชั่วคราว”

รู้อย่างนี้แล้ว ควรหลีกเลี่ยงพฤติกรรมดังกล่าว เพรงที่จะเป็นโรตไตแล้วต้องเจียรฟอกไตทั่ววันนะคะ ขอบอกเลยว่าไม่สนุกแน่ๆ

อ่านเพิ่มเติมได้ที่ http://health.sanook.com/4761/

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : มะเร็งปากมดลูก

ชาวบ้านใช้มือถือตามล่าหาตัวเลข ถูกหวยมาแล้วหลายงวด

ชาวบ้านใช้มือถือตามล่าหาตัวเลข ถูกหวยมาแล้วหลายงวด

ชาวบ้านใช้มือถือตามล่าหาตัวเลข ถูกหวยมาแล้วหลายงวด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (15 ส.ค.) ที่บริเวณต้นข่อยและต้นตะโกนา อายุกว่า 100 ปี กลางทุ่งนา หมู่ 3 ตำบลโพธิ์ม่วงพันธุ์ อำเภอสามโก จังหวัดอ่างทอง ได้มีชาวบ้านในละแวกใกล้เคียงและต่างอำเภอจำนวนมาก โดยพากันเข้าไปจุดธูปกราบไหว้

พร้อมได้ใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายรูปเพื่อส่องหาตัวเลข อยู่ที่บริเวณโดยรอบโคนต้นข่อยและต้นตะโก คล้ายกับการตามล่าหาโปเกม่อน แต่เป็นการตามล่าหาเลขเด็ดนำไปเสี่ยงดวง หลังได้ทราบข่าวว่ามีประชาชนจำนวนมากได้มาใช้โทรศัพท์ส่องหาตัวเลข แล้วนำไปเสี่ยงดวงถูกสลากกินแบ่งรัฐบาลติดต่อกันมาหลายงวด

จากการสอบถาม นายหลาด เทวงค์ อายุ 50 ปี ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ 3 ตำบลโพธิ์ม่วงพันธุ์ กล่าวว่า ต้นข่อยและต้นตะโกนานี้ มีอายุกว่า 100 ปีแล้ว ต้นไม้สองต้นอยู่ติดกัน เป็นต้นไม้คล้ายต้นเดียวกันอยู่ที่บริเวณดังกล่าว

 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 

ต่อ มาทางเจ้าของที่นาได้ใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายรูปที่บริเวณโคนต้นข่อยและต้น ตะโกนา แล้วเห็นเป็นตัวเลขเด็ดชัดเจน นำไปซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลแล้วถูกรางวัลติดต่อกันหลายงวด เมื่อชาวบ้านทราบข่าวจึงได้แห่กันมาหาตัวเลขเพื่อเสี่ยงดวง

โดยมีชาวบ้านได้เดินทางมาจุดธูปขอโชคลาภที่บริเวณดังกล่าวต้องมีโทรศัพท์ ที่ใช้ถ่ายรูปได้ แล้วใช้โทรศัพท์เดินถ่ายรูปกันไปโดยรอบๆ ต้นข่อยและต้นตะโกนา หากดูในระยะไกลจะคล้าย กับเกมตามล่าหาโปเกม่อนที่กำลังฮิตอยู่ในขณะนี้

แต่มาที่กลางทุ่งนาบริเวณโคนต้นข่อยและต้นตะโกนาจะเป็นการหาตัวเลขเพื่อ นำไปเสี่ยงดวง พร้อมได้นำเครื่องเซ่นสังเวย เช่น น้ำแดง ตุ๊กตา ของเล่นและชุดไทยจำนวนมาก นำมาตั้งถวายหลังจากที่เสี่ยงดวงสมหวัง และสร้างความหวังในช่วงวันหวยออกต่อไป

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ผลสลาก

ชำแหละ “บัตรคนจน” ซื้อตรงไหน ใช้อย่างไร ได้กี่อย่าง

ปางปราบมาร

เปิดโปงความชั่วทั่วพิภพ ตีแผ่ความดีทั่วแผ่นดิน

1 ต.ค. 60 ดีเดย์ไปแล้วสำหรับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือ เรียกง่ายๆ ว่า ซึ่งเป็นรัฐสวัสดิการที่รัฐบาลได้ช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยเพื่อแบ่งเบาภาระในสังคม

โดยบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ได้แบ่งประเภทบัตรตามรายได้ของผู้ที่ได้รับการช่วยเหลือเป็น 2 ประเภท คือ

1.กลุ่มที่มีรายได้ไม่เกิน 3๐,๐๐๐ บาทต่อปี จะได้รับเงินอุดหนุนเพื่อซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคจำนวน 300 บาทต่อเดือน รวมทั้งค่าก๊าซหุงต้ม 45 บาทต่อคนต่อ 3 เดือน ค่ารถเมล์และรถไฟฟ้า 500 บาทต่อคนต่อเดือน,ค่ารถโดยสาร บขส. 500 บาทต่อคนต่อเดือน,ค่ารถไฟ 500 บาทต่อคนต่อเดือน

1g4

2.กลุ่มที่มีรายได้เกิน 3๐,๐๐๐ บาทต่อปี แต่ไม่เกิน 100,000 บาท จะได้รับเงินอุดหนุนเพื่อซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคจำนวน 200 บาทต่อเดือน รวมทั้งค่าก๊าซหุงต้ม 45 บาทต่อคนต่อ 3 เดือน ค่ารถเมล์และรถไฟฟ้า 500 บาทต่อคนต่อเดือน,ค่ารถโดยสาร บขส. 500 บาทต่อคนต่อเดือน,ค่ารถไฟ 500 บาทต่อคนต่อเดือน

แต่ทั้งนี้หลายคนยังสงสัยในวิธีการใช้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ว่าสามารถใช้ที่ใด ซื้อของอะไรได้บ้าง มีเงื่อนไขอย่างไรและสามารถถอนเงินออกมาใช้ได้หรือไม่..?

บัตรสวัสดิการแห่งรัฐมีลักษณะคล้ายบัตรเครดิต บัตร ATM คือสามารถนำไปรูดซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคได้ ตามร้านค้าธงฟ้าประชารัฐ ที่ได้ขึ้นทะเบียนกับกระทรวงพาณิชย์ โดยชำระเงินก็ง่ายมากเพียงแค่รูดบัตรจ่ายเงินผ่านเครื่องรับชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือ เครื่อง EDC จากนั้นก็จะได้ใบเสร็จเป็นแสดงยอดที่ใช้จ่ายไปและยอดคงเหลือในบัตร

1g3

แต่ถ้าสินค้าที่ซื้อมีราคาเกินกว่าเงินที่อยู่ในบัตร ก็สามารถเติมเงินเข้าไปในบัตรได้ผ่านบริการกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ หรือ e-Money ของธนาคารกรุงไทย ซึ่งนอกจากจะเติมเงินเข้าไปในบัตรแล้วยังสามารถใช้บัตรทำธุรกรรมฝาก ถอน โอน ผ่านตู้ ATM / ADM ของธนาคารกรุงไทยได้

เรียกได้ว่าสะดวกสบายสามารถพกบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเป็นแทนบัตร ATM ได้ แต่ไม่สามารถกดเงินหรือโอนเงินที่ได้รับจากการการอุดหนุนของโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเข้ากระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ หรือ e-Money ได้ และถ้าเงินอุดหนุนใช้ไม่หมดเงินก็จะถูกตัดทันทีไม่สามารถเก็บสะสมเพื่อนำไปทบยอดในเดือนหน้าได้

1g6

ด้านสิ้นค้าที่สามารถซื้อได้มีแบ่งเป็น 3 หมวดใหญ่ ดังนี้

สินค้าอุปโภค บริโภค เช่น หมวดอาหารสด,หมวดอาหารและเครื่องดื่ม,หมวดของใช้ประจำวัน,หมวดยารักษาโรค

สินค้าเพื่อการศึกษา เช่น เครื่องแต่งกายและอุปกรณ์การเรียน

สินค้าเพื่อเกษตรกรรม เช่น ปุ๋ยเคมี ปุ๋ยอินทรีย์และเมล็ดพันธุ์พืชต่างๆ

ซึ่งสามารถตรวจสอบร้านธงฟ้าประชารัฐได้ดังนี้ ร้านธงฟ้าประชารัฐ

ขณะที่สวัสดิการช่วยเหลือค่าโดยสารรถเมล์,รถไฟฟ้า,รถไฟ,และรถร่วม บขส. บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ แบ่งเป็น 2 แบบ

untitled-1copypptv

1. บัตร EMV ตั๋วร่วม (แมงมุม) สำหรับผู้มีสิทธิที่ลงทะเบียนในเขต กทม. นนทบุรี ปทุมธานี พระนครศรีอยุธยา สมุทรปราการ นครปฐม และ สมุทรสาคร โดยบัตรนี้ ไว้ใช้กับระบบขนส่งมวลชนทั้งหมดในกรุงเทพมหานคร

2. บัตร EMV สำหรับผู้มีสิทธิที่ลงทะเบียนในจังหวัดอื่นๆ (นอกเขต กทม. นนทบุรี ปทุมธานี พระนครศรีอยุธยา สมุทรปราการ นครปฐม และ สมุทรสาคร) สำหรับบัตรนี้ จะไม่สามารถใช้กับระบบขนส่งมวลชนทั้งหมดในกรุงเทพมหานคร.

โดยรถโดยสารที่ร่วมโครงการจะทำการติดตั้งอุปกรณ์ อี-ทิกเก็ต เพื่อใช้สำหรับคิดเงินค่าโดยสารจากบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เพียงแค่แตะเบาๆก็สามารถจ่ายค่าโดยสารไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

สอดคล้องกับ นายประยูร ช่วยแก้ว รองผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการเดินรถ และรักษาการแทนผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ เปิดเผยว่า เตรียมการทยอยติดตั้งให้ครบตามเป้า 800 คัน ภายในวันที่ 15 พฤศจิกายน 2560 ก่อน เพื่อรองรับผู้มีบัตรสวัสดิการรายได้น้อย

สำหรับประชาชนที่ไม่มีบัตรสวัสดิการผู้มีรายได้น้อย ขสมก. ได้ติดตั้ง ตู้รับเหรียญอัตโนมัติ หรือ แคชบ็อกซ์ ใช้จ่ายเงินสดได้ตามปกติ แต่เครื่องดังกล่าวจะรับได้แค่เหรียญเท่านั้น และจะเริ่มมีการเปิดจำหน่ายบัตรร่วมหรือบัตรแมงมุมให้ประชาชนได้ใช้บริการเครื่องอี-ทิกเก็ต อย่างเต็มรูปแบบทั้ง 2,600 คันได้ภายในเดือนมิถุนายน ปี 2560

1gr

ทั้งนี้ปัญหาที่เกิดขึ้นสำหรับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐส่วนใหญ่ประชาชนยังขาดความรู้ในการใช้บัตรและร้านธงฟ้าประชารัฐก็ยังมีไม่ทั่วถึงไม่ครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วไทย ด้านเงินอุดหนุนช่วยเหลือค่าเดินทางก็ยังไม่สามารถใช้ได้ทั้งหมดเท่าที่ควร เนื่องจากว่าปริมาณรถโดยสารที่ติดตั้งเครื่อง อี-ทิกเก็ต ยังมีไม่มากนัก

ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นปัญหาที่ทางโครงการสวัสดิการประชารัฐต้องรีบแก้ไข หากในอนาคตการขนส่งบริการทั้งหมดครอบคลุมและร้านธงฟ้าประชารัฐสามารถให้บริการได้ทุกพื้นที่ โครงการช่วยเหลือค่าครองชีพของคนที่มีรายได้น้อยย่อมเป็นประโยชน์อย่างสูงสุดและจะช่วยแบ่งเบาภาระของคนไทยได้สมกับบ้านเมืองที่น่าอยู่เหมือนดั่งคำขวัญที่ว่า “สยามเมืองยิ้ม”

อ่านเพิ่มเติมได้ที่ http://news.sanook.com/3730734/

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ข่าววันนี้

4 สิ่งที่น่าจับตามองใน Nokia 8 เรือธงตัวแรกกับการกลับมาของโนเกีย

4 สิ่งที่น่าจับตามองใน Nokia 8 เรือธงตัวแรกกับการกลับมาของโนเกีย

4 สิ่งที่น่าจับตามองใน Nokia 8 เรือธงตัวแรกกับการกลับมาของโนเกีย

S! Hitech (Rewrite)

สนับสนุนเนื้อหา

เป็นอีกมือถือรุ่นหนึ่งที่ผู้คนจำนวนไม่ใช้น้อยสนใจไม่น้อยโน่นเป็น โนเกีย 8 ซึ่งกำลังจะขายในประเทศไทยไม่ช้านี้รวมถึงทั้งโลก วันนี้เลยจะมาดูข้อมูลกันหน่อยว่า 4 สิ่งที่ทำให้โทรศัพท์เคลื่อนที่รุ่นนี้น่าสนใจจะมีอะไรบ้าง มาดูกัน

ครั้งแรกของ มือถือ Android ที่ใช้กล้องหลังเลนส์คู่จาก Zeiss

 

เป็นมือถือที่มีกล้องหลังคู่ขนาด 13 ล้านพิกเซล แม้จะดูธรรมดา แต่การที่ได้เลนส์ Zeiss ครั้งแรกของการทำมือถือ ก็เป็นอีกสิ่งที่น่าสนใจไม่เบาเลย และก่อนหน้านี้ Nokia ก็เคยใช้เลนส์ Zeiss มาก่อน การกลับมาใช้เลนส์ Zeiss ครั้งถือว่าน่าตื่นเต้นไม่เบา

ระบบบันทึกเสียงรอบทิศ Nokia OZO

 

เป็นครั้งแรกของ โนเกียที่นำระบบ OZO ซึ่งเป็นระบบอัดเสียงที่มีการใช้จาก Hollywood ซึ่งจะบันทึกเสียงผ่านวีดีโอได้รอบทิศหนแรกบนโทรศัพท์มือถือ

ถ้ามองถึงฟีเจอร์การถ่ายรูปแล้ว กล้องของ  นั้นมีให้ทั้งสามารถถ่ายภาพได้พร้อมกันทั้งกล้องหน้าและหลัง โดยฟีเจอร์ดังกล่าวสามารถใช้งานทั้งถ่ายวีดีโอ และ Live ผ่าน Social Network

ครั้งแรกของโนเกียกับมือถือ Android สเปคระดับบน

 

ปกติ Nokia ภายใต้การนำผลิต HMD Global เปิดตัวโทรศัพท์มือถือที่ราคาแพงอยู่ระหว่าง 5,000 – 8,000 เพียงแค่นั้น ยังไม่มีโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ราคาแพงกว่านั้น ก็เลยทำให้ Nokia 8 เป็นโทรศัพท์มือถือรุ่นแรกที่ตีราคาให้สูงที่สุดเท่าที่ HMD Global เปิดตัวในปีนี้ โดยมีราคาอยู่ที่ 19,500 บาท ในประเทศ ถือว่าสูงสุด แต่ก็มีลูกรวมทั้งความเลิศหรูของเครื่องพอได้เช่นกัน

และก็ทั้งหมดทั้งปวงนี้จะชอบไหมแล้วเล่นจริงเป็นยังไง พรีวิวคงจำเป็นต้องติดตามกันถัดไป

รวมเรื่องราว nokia 8 ที่นี่ คลิ๊ก!!!

สนับสนุนเนื้อหา http://hitech.sanook.com/1432825/

สูตรเค้กกล้วยหอมลูกเกดแบบง่ายและทันใจ

นอกจากจะช่วยเรื่องระบบขับถ่าย ส่งเสริมการทำงานของไตให้มีประสิทธิภาพและเพิ่มความแข็งแรงให้กระดูกแล้ว สูตรอาหารนี้ยังช่วยให้คุณใช้กล้วยหอมที่สุกงอมเกินจะกินสดผลไม้มาทำขนม สถานที่แสนอร่อยจนทุกคนในครอบครัวติดใจอีกด้วย

ส่วนผสมสูตรเค้กกล้วยหอมลูกเกด


กล้วยหอม 3 ลูก
น้ำตาล ¾ ถ้วย
ไข่ไก่ 1 ฟอง
เบกกิ้งโซดา 1 ช้อนชา
ผงฟู 1 ช้อนชา
เกลือ ½ ช้อนชา
แป้งสาลีอเนกประสงค์ 1 ½ ถ้วย
เนยละลายแล้ว 1/3 ถ้วย
กลิ่นวนิลา 1 ช้อนชา
ลูกเกด 1/3 ถ้วย

 

 

 

วิธีทำเค้กกล้วยหอมลูกเกด

1 เปิดเตาอบแหล่งอุณหภูมิ 190 องศาเซลเซียส
2 นำกล้วยหอมมาบดพักไว้สัก 20 นาทีเพื่อให้สีเข้มขึ้น
3 ระหว่างที่รอกล้วยหอมมีสีเข้มขึ้น ให้ร่อนของแป้งแป้งสาลีอเนกประสงค์ เกลือ ผงฟู เบกกิ้งโซดา รวมกันในภาชนะอีกใบพักไว้
4 นำกระดาษ หรือถ้วยมาเรียงไว้ในถาดอาบขนม
5 เมื่อครบ 20 นาทีให้เติมน้ำตาล ไข่ และกลิ่นวนิลา ลงไปในกล้วยหอม ผสมให้เข้ากันแล้วจึงเติมเนยที่ละลายและลูกเกดแล้วลงไป ผสมให้เข้ากัน
6 เติมส่วนผสมแห้งในที่เตรียมไว้ในภาชนะอีกใบที่อยู่ผสมไว้แล้วมาผสมรวมกับส่วนผสมของเหลว
7 ตักส่วนผสมเค้กกล้วยหอมใส่ลงไปในกระดาษอบที่เตรียมไว้ประมาณ ¾ ของถ้วย เพื่ออุดหนุนเวลาอบแล้วขนมไม่ล้นออกนอกถ้วยค่ะ นำเดินอบประมาณ 20 นาที รอให้เย็นก็เตรียมลิ้มรสความอร่อยได้เลยค่ะ

ขอบคุณข้อมูลจาก http://women.sanook.com/19883/

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ผู้หญิงอยากรู้

หลุด ชื่อทางการของ iPhone รุ่นปี 2017 iPhone X iPhone 8 และ iPhone 8 Plus

หลุด ชื่อทางการของ iPhone รุ่นปี 2017  iPhone X iPhone 8 และ iPhone 8 Plus

หลุด ชื่อทางการของ iPhone รุ่นปี 2017 iPhone X iPhone 8 และ iPhone 8 Plus

แบไต๋

สนับสนุนเนื้อหา

นักพัฒนานามว่า Steven Troughton-Smith ได้เจาะเข้าไปดูโค้ดภายในเฟิร์มแวร์ iOS 11 เวอร์ชั่น Gold Master ซึ่งทำให้ทราบชื่ออย่างเป็นทางการของ iPhone รุ่นใหม่ปี 2017 ดังนี้

iPhone X (รุ่นฉลองครบรอบ 10 ปี) iPhone 8 (รุ่นถัดจาก iPhone 7) iPhone 8 Plus (รุ่นถัดจาก iPhone 7 Plus)

ข้อมูลดังกล่าว เป็นการไขข้อข้องใจที่มีมาอย่างยาวนานว่า iPhone รุ่นฉลองครบรอบ 10 ปีนั้น จะมีชื่อรุ่นว่าอะไรกันแน่ บางแหล่งข่าวอ้างว่าจะเป็น iPhone 8 และบางแหล่งข่าวก็อ้างว่าเป็น iPhone Edition

อย่างไรก็ดี Apple จะเฉลยข้อมูลทั้งหมดเกี่ยวกับ iPhone รุ่นใหม่ และผลิตภัณฑ์อื่นๆ ภายในงานเปิดตัวซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 12 กันยายน 2017 นี้

อ่านเพิ่มเติมได้ที่ http://hitech.sanook.com/1433877/

 

 

คิมจูฮยอก ดาราซีรีส์ Reply1988 ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต

คิมจูฮยอก ดาราซีรีส์ Reply1988 ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต

คิมจูฮยอก ดาราซีรีส์ Reply1988 ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต

S! News

สนับสนุนเนื้อหา

(30 ต.ค.) สำนักข่าวเกาหลี รายงานว่านักแสดงชื่อดัง คิมจูฮยอก จากซีรีส์ดังที่คนไทยรู้จักกันดีเรื่อง Reply 1988 เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ 

ตามรายงานระบุว่าเวลาประมาณ 16.30 น. ตามเวลาท้องถิ่น คิมจูฮยอก ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ในย่าน Samseong-dong อยู่ทางตอนใต้ของกรุงโซล รถของเขาเสียหลักพลิกคว่ำเป็นเหตุให้เขาได้รับบาดเจ็บอย่างรุนแรง และเสียชีวิตในเวลาต่อมา 

ทั้งนี้้ ทางต้นสังกัด Namoo Actors ได้ออกแถลงการณ์เกี่ยวกับข่าวการเสียชีวิตของ คิมจูฮยอก อย่างเป็นทางการแล้ว  

 

ผลงานของ คิมจูฮยอก ที่เพิ่งลาจอไปคือ เรื่อง Argon และผลงานที่แฟนๆ คนไทยรู้จักกันดีคือเรื่อง Reply 1988  อ่านเพิ่มเติมได้ที่ http://news.sanook.com/4064478/

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ข่าววันนี้

เปรียบเทียบ Nokia 8 และ Samsung Galaxy S8 เรือธงรุ่นใหม่ล่าสุดจากสองค่ายใหญ่

เปรียบเทียบ Nokia 8 และ Samsung Galaxy S8 เรือธงรุ่นใหม่ล่าสุดจากสองค่ายใหญ่

เปรียบเทียบ Nokia 8 และ Samsung Galaxy S8 เรือธงรุ่นใหม่ล่าสุดจากสองค่ายใหญ่

thaimobilecenter

สนับสนุนเนื้อหา

เปรียบเทียบ  และ Samsung Galaxy S8 เรือธงรุ่นใหม่ล่าสุดจากสองค่ายใหญ่ รุ่นใดฟีเจอร์ไฮเอนด์จัดเต็มครบครันกว่ากัน เรามีคำตอบ!

ในที่สุดก็เปิดตัวอย่างเป็นทางการเรียบร้อยแล้วสำหรับ Nokia 8 สมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นแรกภายใต้แบรนด์ Nokia หลังจากที่ปล่อยสมาร์ทโฟนระดับกลางอย่าง Nokia 6, Nokia 5 และ Nokia 3 รวมถึงฟีเจอร์รุ่นอื่นๆ มาทำตลาดก่อนตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมา เรียกได้ว่า Nokia 8 มาพร้อมกับความไฮเอนด์แบบครบครันในทุกองค์ประกอบ ไม่ว่าจะเป็น หน้าจอคมชัดระดับ 2K QHD, ชิปเซ็ต Snapdragon 835 และกล้องถ่ายภาพแบบคู่ (Dual-Camera) พร้อมเลนส์ Carl Zeiss ทั้งด้านหน้า และหลัง รวมถึงคุณสมบัติในการป้องกันน้ำ-ป้องกันฝุ่น ก็รองรับใน Nokia 8 รุ่นใหม่นี้ด้วยเช่นเดียวกัน

สำหรับสมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นที่ได้รับความสนใจจากทั้งสื่อ และผู้ใช้ทั่วโลกตั้งแต่เปิดตัวอย่างเป็นทางการจนกระทั่งขณะนี้จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก Samsung Galaxy S8 ที่มาพร้อมกับการพลิกโฉมดีไซน์หน้าจอไร้ขอบแบบใหม่ รวมถึงอัปเกรดฟีเจอร์ภายในขึ้นจากรุ่นก่อนในหลายด้าน รวมถึงรองรับผู้ช่วยอัจฉริยะอย่าง Bixby และการสแกนม่านตา (Iris Scanner) ที่ช่วยยกระดับมาตรฐานการรักษาความปลอดภัยขึ้นไปอีกขั้น

และด้วยความโดดเด่นแบบกินกันไม่ลงของทั้งสองรุ่นนี้ ทางทีมงาน Thaimobilecenter จึงได้นำ Nokia 8 และ Samsung Galaxy S8 มาทำการเปรียบเทียบฟีเจอร์ และคุณสมบัติเด่นให้ได้ชมกันแบบช็อตต่อช็อต ว่าทั้งสองรุ่นมีความโดดเด่นในด้านใดบ้าง และจะแตกต่างกันมากน้อยเพียงใด หากพร้อมแล้วเชิญติดตามการเปรียบเทียบอย่างละเอียดที่ตารางด้านล่างนี้ได้เลยค่ะ


untitled-2

 

เป็นไงบ้างคะสำหรับในการเปรียบสมาร์ทโฟนเรือธงแห่งปีของสองค่ายยักษ์ใหญ่ในวงการสมาร์ทโฟน จะเห็นได้ว่าแต่ว่าละรุ่นก็มาพร้อมฟีเจอร์ระดับท็อปอย่างครบถ้วน รวมทั้งมีความสะดุดตาในด้านที่แตกต่างกันออกไปอย่างชัดเจน โดย Nokia 8 มาพร้อมกับจอขนาดกะทัดรัดที่ 5.3 นิ้ว ความละเอียดระดับ 2K Quad HD พร้อมขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ต Snapdragon 835 และมีหน่วยความจำแรม(RAM) ขนาด 4GB โดยมีปริมาตร 64GB ที่สามารถเพิ่มการ์ดหน่วยความจำภายนอกแบบ microSD อีก 256GB แล้วก็มีแบตเตอรี่ปริมาตร 3090 mAh พร้อม Fast Charge บนระบบปฏิบัติการ Android 7.1.1 Nougat รวมทั้งรองรับ Google Assistant

Nokia 8 มาพร้อมกล้องคู่ (Dual-Camera) ที่ข้างหลังความละเอียด 13 13 ล้านพิกเซล พร้อมเลนส์ Carl Zeiss ด้านหน้า-ข้างหลัง รองรับระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบ OIS และกล้องหน้าความละเอียดเท่ากันที่ 13 ล้านพิกเซล โดยมีขนาดรูรับแสงกว้างสูงสุดที่ F/2.0 ซึ่งตัวเครื่องรองรับคุณสมบัติการป้องกันน้ำ และคุ้มครองฝุ่นที่ติดอยู่ตามมาตรฐาน IP57 รวมถึงเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ (Fingerprint Scanner) และการเชื่อมต่อแบบ USB Type-C ซึ่งราคาแพงเปิดตัวที่ 599 ยูโร (โดยประมาณ 23,500 บาท)

สำหรับ Samsung Galaxy S8 มีคุณลักษณะเด่นในด้านการดีไซน์รูปแบบใหม่ที่มีหน้าจอแสดงผลไร้ขอบแบบInfinity Display ขนาดใหญ่ขึ้นที่ 5.8 นิ้ว บนตัวเครื่องขนาดเท่ารุ่นเดิม พร้อมชัดระดับ 2K QHD แล้วก็ขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ต Exynos 8895 พร้อม RAM 4GB, ROM 64GB ซึ่งสามารถเพิ่มการ์ด microSD ได้อีก 256GB บนระบบปฏิบัติการ Android 7.1.1 Nougat โดยมีแบตเตอรี่ความจุ 3000 mAh พร้อมระบบ Fast Charge รวมทั้งรองรับปัญญาประดิษฐ์อย่าง Bixby

Samsung Galaxy S8 ใช้งานกล้องที่มีไว้ถ่ายรูปแบบ 100% AF Dual Pixel ควมละเอียด 12 ล้านพิกเซลที่มีขนาดรูรับแสงกว้างสูงสุดที่ F/1.7 พร้อมรองรับระบบคุ้มครองป้องกันภาพสั่นไหวแบบ OIS แล้วก็กล้องหน้าสำหรับเซลฟี่ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รวมทั้งรองรับเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ (Fingerprint Scanner), เซ็นเซอร์สแกนม่านตา (Iris Scanner) รวมทั้งการเชื่อมต่อแบบ USB Type-C บนตัวเครื่องคุ้มครองปกป้องน้ำ-คุ้มครองฝุ่นที่ติดอยู่ตามมาตรฐาน IP68 ที่สามารถจองเป็นเจ้าของได้แล้ววันนี้ในราคา 27,900 บาท

อย่างไรก็ดี นอกเหนือไปจากคุณภาพการทำงาน และคุณสมบัติเด่นในด้านต่างๆแล้ว ความชื่นชอบ และรสนิยมส่วนบุคคลก็ถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ไม่สมควรละเลยสำหรับในการเลือกซื้อโทรศัพท์มือถือสักเครื่องหนึ่ง ดังนี้จึงขึ้นกับเพศผู้ใช้เองว่ามีความต้องการสมาร์ทโฟนที่สะดุดตาในด้านใด เพื่อตอบโจทย์การใช้งานในไลฟ์สไตล์ของท่านเจริญที่สุด ซึ่งแม้ว่าได้ตรวจสอบและลองใช้งานในเบื้องต้นแล้วเกิดความพึงพอใจอีกทั้งในด้านการทำงาน, วางแบบ แล้วก็ราคา ก็ถือได้ว่าสมาร์ทโฟนรุ่นนั้นควรค่าต่อการจับจองเป็นเจ้าของแล้วค่ะ สำหรับวันนี้ทางคณะทำงานจะต้องลาไปก่อน แล้วพบกันได้ใหม่ในบทความหน้า สวัสดีค่ะ

 

สรุปข้อมูล และข่าวอัปเดตล่าสุดของ Nokia 8

สรุปข้อมูล และข่าวอัปเดตล่าสุดของ Samsung Galaxy S8
สรุปคุณสมบัติโดยละเอียดของ Samsung Galaxy S8
รีวิว (Review) Samsung Galaxy S8

 

รวมเรื่องราว nokia 8 ที่นี่ คลิ๊ก!!!

สนับสนุนเนื้อหา http://hitech.sanook.com/1432121/

วันจันทร์ที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2560

เทศกาลกินเจ 2560 การปฏิบัติตัว แนะนำอาหารเจ

เทศกาลกินเจ 2560 การปฏิบัติตัว แนะนำอาหารเจ

 

เทศกาลกินเจ 2560 ตรงกับวันที่ 20-28 ตุลาคม 2560 

เมื่อถึงวันขึ้น 1 ค่ำ ไปจนกระทั่งขึ้น 9 ค่ำ เดือน 9 เราจะเห็นธงสีเหลืองมีตัวหนังสือสีแดง ปรากฏให้เห็นอยู่ทั่วไปตามร้านอาหาร 2 ข้างถนน นั่นบ่งบอกให้รู้ว่า เป็นช่วงเวลาของเทศกาลกินเจ

คำว่า "เจ" ในภาษาจีนมีความหมายทางพุทธศาสนาฝ่ายมหายานว่า "อุโบสถ" คำว่า "กินเจ" ตามความหมายที่แท้จริงคือการรับประทานอาหารก่อนเที่ยงวัน ดังเช่นที่ชาวพุทธในประเทศไทยถือ "อุโบสถศีล" หรือ "รักษาศีล 8" จะไม่รับประทานอาหารหลังจากเที่ยงวันไปแล้ว แต่เนื่องจากการถืออุโบสถศีล ของชาวพุทธฝ่ายมหายานไม่กินเนื้อสัตว์ จึงนิยมเรียก "การไม่กินเนื้อสัตว์" ไปรวมกันคำว่า "กินเจ" ซึ่งเป็นการถือศีลไปด้วย ในปัจจุบันผู้ที่รับประทานอาหารทั้ง 3 มื้อ แต่ไม่กินเนื้อสัตว์ก็ยังคงเรียกว่า "กินเจ" ฉะนั้นความหมายก็คือ "คนกินเจ" มิใช่เพียงแต่ไม่กินเนื้อสัตว์ แต่คนที่กินเจ ยังต้องดำรงตนอยู่ในศีลธรรมอันดีงาม มีความบริสุทธิ์สะอาด งดงามทั้งกาย วาจา ใจ เป็นการถือศีลบำเพ็ญธรรมไปด้วยพร้อมกัน เช่นนี้แล้วจึงจะเรียกว่า "กินเจที่แท้จริง" ดังนั้น คำคล้องจองที่เราได้ยินอยู่เสมอ คือ "ถือศีลกินเจ" จึงนับว่ามีความหมายสมบูรณ์ครบถ้วนอยู่ในตัวเองแล้ว

ตามร้านขาย "อาหารเจ" เราจะพบเห็นตัวอักษร คำนี้อ่าน "ไจ" (เจ) แปลว่า "ไม่มีของคาว"เขียนด้วยสีแดงบนพื้นสีเหลืองเสมอ ในช่วงเทศกาลกินเจเดือน 9 จะเห็นตัวอักษรนี้เขียนบนธงสีเหลือง ปักอยู่ตามแผงขายอาหารเจมองเห็นเป็นที่สะดุดตาแก่คนทั่วไป ชาวจีนถือว่าสีแดงเป็นสีแห่งสิริมงคลแก่ชีวิต สีเหลืองเป็นสีของผู้ทรงศีล ดังนั้นผู้ตั้งใจถือศีลบำเพ็ญตนให้บริสุทธิ์ ตัวอักษรนี้ย่อมเป็นเครื่องหมายเตือนสติให้ระลึกไว้เสอมว่า "การกินเจงดเว้นเนื้อสัตว์ของคาวคือ การปฏิบัติธรรม รักษาศีลของความเป็นมนุษย์ เป็นการเจริญมหาเมตตากรุณาธรรมโดยแท้ อันจะนำมาซึ่งความเป็นสิริมงคลแก่ตนเอง และก่อให้เกิดสันติสุขแก่ทุกชีวิตบนโลก"

ที่มาของเทศกาลกินเจ

เทศกาลเจ เริ่มขึ้นเมื่อประมาณ 400 ปีมาแล้ว ตามตำนานเล่าว่า เกิดมาในสมัยที่ชาวจีนถูกรุกรานโดยชนชาติแมนจู ซึ่งเข้าปกครองประเทศจีน และบังคับให้ชนชาติจีนยอมรับวัฒนธรรมของตน อาทิ การไว้ทรงผมเยี่ยงแมนจู คือ โกนศีรษะโล้นทางด้านหน้าและไว้ผมยาวทางด้านหลัง ซึ่งหลายคนคงจะชินตาในภาพยนตร์จีนที่นำมาฉายทางทีวี

ในสมัยนั้น มีคนจีนกลุ่มหนึ่งรวมตัวกันต่อต้านชาวแมนจู โดยใช้หลักทางธรรมเข้ามาร่วมด้วย ชาวจีนกลุ่มนี้ นุ่งขาว ห่มขาวและไม่รับประทานเนื้อสัตว์ ซึ่งมีความเชื่อว่า การประพฤติปฏิบัติตามแนวทางนี้จะช่วยสร้างความเข้มแข็ง ให้กับกลุ่มของตนจนสามารถต้านทานชาวแมนจูได้ คนกลุ่มนี้เรียกตัวเองว่า "หงี่หั่วท้วง" ซึ่งแม้จะได้ต่อสู้อย่างอาจหาญ แต่ท้ายที่สุดก็ไม่สามารถต้านทานการรุกรานของชาวแมนจูได้

เมื่อถึงวันขึ้น 1 ค่ำ เดือน 9 ชาวจีนที่ยังคงอยู่ภายใต้การปกครองของชาวแมนจู จึงพากันถือศีลกินเจ เพื่อรำลึกถึงเหล่านักสู้ "หงี่หั่วท้วง" ที่ได้ต่อสู้พลีชีพในครั้งนั้น

ความเชื่อถืออีกกระแสหนึ่งของตำนานการกินเจนั้น เชื่อกันว่าเป็นการสักการะพระพุทธเจ้าในอดีต 7 พระองค์ และพระมหาโพธิสัตว์อีก 2 พระองค์ รวมเป็น 9 พระองค์ หรืออีกนัยหนึ่งเรียกว่า ดาวนพเคราะห์ทั้ง 9 ในพิธีกรรมนี้ สาธุชนจึงงดเว้นจากการฆ่าสัตว์ ตัดชีวิต หันมาบำเพ็ญศีล โดยการตั้งปณิธานในการกินเจ งดเว้นอาหารคาว เพื่อเป็นการสมาทานศีล 2 ประการ คือ

  1. เว้นจากการเอาชีวิตของสัตว์มาบำรุงชีวิตของตน 
  2. เว้นจากการเอาชีวิตของสัตว์มาเพิ่มเลือดของตน 
  3. เว้นจากการเอาชีวิตของสัตว์มาเพิ่มเนื้อของตน

สำหรับเมืองไทยความเชื่อเรื่องการกินเจ เป็นไปในแนวทางของการละเว้นการเอาชีวิตของสัตว์ เพื่อเป็นสักการะบูชาแก่ พระพุทธเจ้า และมหาโพธิสัตว์กวนอิม อาจเนื่องจากการแพร่หลายของกการละเว้นการกินเนื้อวัว ในกลุ่มคนที่นับถือ "เจ้าแม่กวนอิม" การกินเจ จึงเป็นอีกหนึ่งพิธีกรรมเพื่อสักการะ

ความหมายของธงเจ

อักษรแดง บนพื้นเหลือง เขียนว่า "ไจ" หรือ "เจ" มีความหมายว่า "ของไม่มีคาว" สีแดงเป็นตัวแทนของความเป็นสิริมงคลในชีวิต ส่วนสีเหลืองเป็นสีของพุทธศาสนา หรือผู้ทรงศีล ธงเจนอกจากจะเป็นสัญลักษณ์ของอาหารเจแล้ว ยังเป็นการเตือนให้พุทธศาสนิกชนที่ปฏิบัติตน "ถือศีล-กินเจ" ได้ตระหนักถึงการไม่เบียดเบียนชีวิตสัตว์และการตั้งอยู่ในศีลตลอดช่วงระยะเวลา 9 วัน 9 คืน

 

การปฏิบัติตัวในช่วงเทศกาลกินเจ

เมื่อตั้งมั่นที่จะปฏิบัติศีลและกินเจ ในช่วงเทศกาลกินเจ 9 วัน 9 คืนนี้แล้ว ก็ควรจะศึกษาข้อห้ามต่างๆ ที่บัญญัติไว้เพื่อเป็นแนวทางในการปฏิบัติตัว โดยทั่วไปแล้วจะมีข้อปฏิบัติดังนี้

  • งดเว้นเนื้อสัตว์ หรือทำอันตรายต่อสัตว์ 
  • งด นม เนย หรือน้ำมันที่มาจากสัตว์ 
  • งดอาหารรสจัด หมายถึง อาหารรสเผ็ดมาก เค็มมาก หวานมาก เปรี้ยวมาก 
  • งดผักกลิ่นฉุน 5 ชนิด คือ กระเทียม หัวหอม หลักเกียว กุยช่าย ใบยาสูบ รวมทั้งเครื่องเทศที่มีกลิ่นฉุน 
  • รักษาศีล 5 
  • รักษาจิตใจให้บริสุทธิ์ รักษาอารมณ์ให้คงที่ 
  • ทำบุญ ทำทาน บางคนที่เคร่งอาจนุ่งขาว ห่มขาว

สำหรับคนที่กินเจอย่างเคร่งครัด นอกจากจะ "ถือศีล-กินเจ" แล้วยังต้องเลือกผู้ปรุงอาหารเจที่กินเจด้วย เพื่อให้ "อาหารเจ" นั้นบริสุทธิ์จริงๆ บางคนจะมีการคัดแยกภาชนะที่บรรจุอาหารหรือใช้ปรุงอาหาร แยกจากที่ใช้ใส่อาหารที่มีเนื้อสัตว์อย่างเด็ดขาด และในบางแห่งอาจพบว่ามีการจุดตะเกียงเก้าดวง ไว้เป็นเวลา 9 วันตลอดระยะเวลาการกินเจ เพื่อเป็นการรำลึกถึงบุญคุณพ่อแม่ญาติพี่น้อง และเพื่อเป็นพุทธบูชา

กินเจ 2560

อาหารเจ

ปัจจุบันมีการยอมรับกันโดยทั่วไปถึงคุณค่าของ "อาหารเจ" เนื่องจากการรับประทานพืชผักในปริมาณที่มากกว่าปกติ งดเว้นเนื้อสัตว์ ทำให้กระเพาะได้พักจากภารกิจการย่อยเนื้อสัตว์ที่ทำประจำอยู่ และได้รับวิตามินเข้าไปเสริมสร้าง ซ่อมแซมร่างกายส่วนที่สึกหรอ รวมทั้งได้โปรตีนจากถั่วชนิดต่างๆ ซึ่งแตกต่างจากโปรตีนที่เราได้รับจากเนื้อสัตว์ ช่วงเวลานี้จึงถือเป็นช่วงที่ร่างกายได้พักผ่อนจากการรับสารอาหารย่อยยากจากแหล่งอาหารต่างๆ รวมทั้งยังได้รับพลังใจจากการที่ปฏิบัติตัวอยู่ในศีล ทำให้จิตใจอิ่มเอิบ เบาสบาย

หลายคนคิดว่า การรับประทานแต่อาหารเจจะทำให้เกิดโรคขาดอาหาร ทั้งที่สาเหตุสำคัญของการเกิดโรคขาดอาหารนั้น มาจากการรับประทานอาหารที่ไม่ถูกหลัก ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้ทั้งกับผู้ที่กินเนื้อสัตว์และกินเจ ซึ่งมีนิสัยการบริโภคที่ไม่คำนึงถึงคุณค่าของสารอาหารที่ได้รับ

คนที่กินเจอย่างถูกหลักก็จะได้รับอาหารที่มีคุณค่า มีคุณประโยชน์ต่อร่างกายอย่างครบถ้วนสมบูรณ์ การประกอบอาหารเจเพื่อรับประทานในช่วงนี้ จึงสามารถเลือกอาหารพวก ข้าวกล้อง (ใช้แทนข้าวขาว) โปรตีนเกษตร (แทนเนื้อสัตว์) ผักสด เห็ดหอม ถั่วนานาพันธุ์ เต้าหู้ แป้งหมี่กึง ทดแทน และผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันทำเป็นอาหารชนิดต่างๆ 
        

แนะนำตำราทำอาหารเจ

อานิสงส์ของการกินเจ ประเพณีกินเจของชาวจีน ก่อให้เกิดประโยชน์หลายด้านด้วยกันคือ

  1. ด้านศีลธรรม ผุ้กินเจจะปฏิบัตตนอยู่ในศีลธรรมอันดี มีความเมตตา เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ไม่ฆ่าสัตว์ตัดชีวิต ไม่เบียดเบียนผู้อื่นนับเป็นบุญกุศลใหญ่หลวง
  2. ด้านสุขภาพกาย ผู้กินเจจะมีสุขภาพกายดีเพราะไม่ดื่มของมึนเมา และไม่รับประทานเนื้อสัตว์ รวมทั้งอาหารประเภทไขมันสูง ทำให้ลดภาวะไขมันในเส้นเลือด ซึ่งมีอันตรายต่อชีวิต นอกจากนี้อาหารจากเนื้อสัตว์มักมีเชื้อโรคปะปน เสี่ยงต่อการเป็นโรคภัย ผุ้กินเจเป็นประจำจึมีอายุยืนนาน
  3. ด้านสุขภาพจิต ผู้กินเจจะมีสุขภาพจิตที่ดี เพราะผลจากการปฏิบัติธรรมที่ไม่คิดเบียดเบียนผู้อื่น ให้อภัยซึ่งกันและกัน และมีความเมตตาต่อกันทำให้จิตบริสุทธิ์แจ่มใสตลอดเวลา
  4. ด้านเศรษฐกิจ ผู้กินเจสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน เพราะผักมักจะราคาไม่แพงเหมือนเนื้อสัตว์ทั่วๆไป
  5. ด้านสังคม ผู้กินเจจะมีความสามัคคีกัน เกิดการร่วมมือ ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน
  6. ด้านการเมือง เนื่องจากการกินเจ หรืออาหารจากพืชผัก ไม่มีกรกำหนดทางเชื้อชาติศาสนา จึงมีผู้เข้าร่วมพิธีกรรมอย่างมากมาย ประกอบกับปลูกฝังให้ผุ้เข้าร่วมพิธีมีควมสามัคคีจึงไม่ก่อห้เกิดความขัดแย้งระหว่างชุมชนบ้านเมืองสงบร่มเย็น ประชาชนอยู่กันอย่างประหยัด ภาวะเศรษฐกิจก็จะดีขึ้นส่งผลให้รัฐบาลมีเสถียรภาพมากยิ่งขึ้นด้วย

เจกับมังสวิรัติ ต่างกันอย่างไร

อาหารมังสวิรัติ คือ อาหารที่ไม่มีเนื้อสัตว์เป็นส่วนประกอบเช่นเดียวกับอาหารเจ แต่หากเป็นมังสวิรัตินั้น สามารถนำผักทุกชนิดมาประกอบอาหารได้ แต่อาหารเจ ต้องงดเว้นผักฉุน 5 ประเภท (ดังที่กล่าวมาแล้ว) รวมทั้งของเสพติดทุกชนิด และยังคงต้องประพฤติศีลร่วมด้วย จึงจะเป็นการ ถือศีล-กินเจ ที่แท้จริง ในขณะที่มังสวิรัติ หมายรวมถึงการไม่รับประทานเนื้อสัตว์เท่านั้น

การกินเจ นอกจากจะตั้งอยู่บนพื้นฐานของการสร้างบุญกุศลด้วยการละ เลิก เพื่อชีวิตแล้ว ในแง่ของสุขภาพร่างกายก็พลอยได้รับประโยชน์ร่วมด้วย เพราะถือเป็นช่วงเวลาหนึ่งที่ร่างกายมีโอกาสพักผ่อน จากการย่อยอาหารประเภทที่ย่อยยากทั้งหลาย 

กิน "เจ" ที่ภูเก็ต

"เจ" ที่ภูเก็ตมาจากรากฐานความเชื่อเดียวกัน คนจีนเรียก "เจเดือนเก้า" แต่ถ้านับตรงกับเดือนไทยก็จะได้ตรงกับเดือน 11 เทศกาลกินเจที่ภูเก็ตจึงมีขึ้นหลังเทศกาลกินเจทั่วๆ ไป บางครั้งเราจึงมักได้ยินเชื่อเรียกของเทศกาลกินเจที่ภูเก็ต ว่าเป็นเทศกาลกินผัก ซึ่งแท้จริงแล้วก็คือการกินเจในรูปแบบและระยะเวลา 9 วันเช่นเดียวกัน

ความเชื่อเกี่ยวกับการกินเจที่ชาวภูเก็ตเล่าสืบต่อกันมาว่า มีคณะงิ้วจากเมืองจีนมาเปิดการแสดงที่กะทู้ แล้วบังเอิญเกิดโรคระบาด คณะงิ้วจึงจัดให้มีพิธีกินเจ และสร้างศาลเจ้าขึ้น ปรากฏว่าโรคระบาดก็หายไปสิ้น ชาวบ้านเกิดความเลื่อมใสจึงปฏิบัติตาม นับเนื่องจากนั้นมีผู้ศรัทธามากขึ้นเรื่อยๆ ชาวกระทู้จึงอยากให้พิธี "กินเจ" ของตนสมบูรณ์แบบ ตามแบบพิธีในมณฑลกังไส จึงได้ส่งตัวแทนไปนำเอาควันธูปกลับมา โดยการตั้งมั่นที่แรงกล้า เพราะพิธีการนำควันธูปกลับมานั้น ต้องจุดธูปต่อกันมิให้มอดดับได้ ศาลเจ้ากระทู้จึงเป็นศูนย์กลางของเทศกาลการกินเจที่ภูเก็ตเรื่อยมา จนมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักทั้งในและต่างประเทศ

9 วันแห่งพิธีกรรมของการกินเจที่ภูเก็ต

ตอนบ่ายก่อนวันเริ่มกินผัก จะมีพิธียกเสา "โกเด้ง" ขึ้นที่หน้าศาลเจ้า หรืออ๊าม เพื่อใช้เป็นที่แขวนตะเกียงทั้ง 9 ดวง และอัญเชิญดวงวิญญาณของยกอ๋องฮ่องเต้ หรือ พระอิศวร และ กิวอ๋องไตเต หรือ ราชาผู้เป็นใหญ่ทั้งเก้า ในตอนกลางคืนเพื่อมาประดิษฐาน ณ ศาลเจ้าหรือ อ๊าม

เช้าวันรุ่งขึ้นมีการจุดธูปขนาดใหญ่ ตั้งเครื่องเซ่นและเผาไม้หอม เพื่อบูชาเจ้าประจำอ๊าม

หลังพิธีการกินเจ หรือชาวภูเก็ตเรียก "การกินผัก" ผ่านไป 3 วัน จะถือว่าตัวเองมีความสะอาดแล้ว หรือเรียกว่า "เช้ง" (清)ในตอนค่ำมีพิธีการอันเชิญเทพเจ้าอีก 2 องค์ คือ "ลำเต้า" เจ้าผู้ถือบัญชีคนเกิด และ "ปักเต้า" เจ้าผู้ถือบัญชีคนตาย และทำพิธี "ปั้งกุ้น" หรือพิธีปล่อยพระ หรือการจัดทหารของเจ้าไปรักษาศาลเจ้าทั้ง 5 ทิศ เพื่อป้องกันสิ่งชั่วร้าย และภูตผีมาทำลายพิธี ความสนุกสนานเริ่มขึ้นตรงนี้ เมื่อการเชิญทหารเต็มไปด้วยร่างทรงของตัวละคร อาทิ เห้งเจีย บู๊สง เป็นต้น

ในวันที่เจ็ด เริ่มพิธี บูชาดาว เพื่อขอความเป็นสิริมงคล รักษาโรคภัยไข้เจ็บ

สองวันสุดท้าย เป็นความตื่นเต้นท้าทาย เมื่อมีการจัดขบวนพิธีแห่อย่างมโหฬาร เพื่อนำเกี้ยวไปรับพระจำหลักที่สะพานหิน เป็นการระถึงวันที่ควันธูปจากมณฑลกังไสมาถึงภูเก็ต ในขบวนแห่จะมีการแสดงอิทธิฤทธิ์ของม้าทรง หรือ คนทรงเจ้า ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้ชาย จะเห็นภาพของการใช้ของมีคมต่างๆ ทิ่มแทงตามร่างกาย มีทั้งง้าว ลูกตุ้มเหล็กฟาดหน้าฟาดหลัง เอาขวานจามหลัง หรือเอาเหล็กแหลมทิ่มแทงร่างกาย หรือแทงลิ้น จนกระทั่งเฉือนลิ้นตัวเองออกมา โดยท้าทรงเหล่านั้นอ้างว่าไม่มีความเจ็บปวดใดๆ ขณะเป็นร่างทรง ม้าทรงจะเดินเต้น ไปทั่วเมือง ชาวบ้านจะตั้งโต๊ะเครื่องเซ่นไหว้เพื่อให้เจ้าไปโปรดและมีการจุดประทัดตลอดเส้นทาง ทั้งเกาะปกคลุมด้วยควันธูปและประทัด

วันที่เก้า จะมีพิธีศักดิ์สิทธิ์ คือ พิธี "โก๊ยโห้ย" หรือพิธีลุยไฟสะเดาะเคราะห์ ม้าทรง หรือเจ้าจะเดินผ่านกองไฟ ที่มีถ่ายร้อนแดงเป็นระยะทางกว่า 2 ฟุต และตามด้วยผู้ที่ถือศีลกินเจที่มีความมั่นใจว่าตัวเองสะอาดแล้ว ก็สามารถร่วมลุยไฟได้ด้วยเช่นกัน ในตอนกลางคืนจะมีพิธีปีนบันไดมีด สูงประมาณ 12 เมตร และจบลงที่ยามดึกของคืนวันที่ 9 จะมีการแห่พระไปส่งทะเลบริเวณสะพานหิน และนำเสาโกเต้งลงดับโคมไฟทั้ง 9 เป็นเสร็จพิธีกินเจที่ภูเก็ต

กินเจ ที่ภูเก็ต ออกไปในแนวสนุกสนาน ตื่นเต้น ด้วยอิทธิปาฏิหาริย์ ซึ่งพิสูจน์ไม่ได้ แต่หลายคนที่ไปดูด้วยตาตนเอง ยังพกความตื่นตาตื่นใจ เป็นประสบการณ์มาถึงปัจจุบัน และเป็นอีกหนึ่งวัฒนธรรมการกินเจอีกรูปแบบหนึ่ง

รอบรู้เรื่องการกินเจ

Image result for กินเจ site:sanook.com

ถ้าจะกินเจ ต้องห้ามกินอะไรบ้าง

อีกไม่กี่สัปดาห์เทศกาลกินเจก็ใกล้จะเข้ามาถึงแล้ว บางคนอาจจะถือศีลกินเจมาอย่างต่อเนื่องทุกปี แต่สำหรับคนที่เพิ่งจะตัดสินใจเริ่มในปีนี้ก็ต้องขอบอกเอาไว้ก่อนว่า การกินเจก็คือการกินผัก กินอาหารที่เป็นชีวะจิต งดเว้นการรับประทานเนื้อสัตว์ทุกประเภท รวมถึงการถือศีลอย่างเคร่งครัด รวมถึงมีวิธีและข้อห้ามที่ชัดเจนที่เราควรระลึกได้อยู่เสมอ อย่างการกินผัก ก็ไม่ใช่ว่าเราจะสามารถกินผักได้ทุกประเภทนะ

อ่านเพิ่มเติม: http://horoscope.sanook.com/70961/

Image result for กินเจ site:sanook.com

กินเจอย่างไร ให้ได้บุญสูงสุด

การถือศีลกินเจนับได้ว่าเป็นการทำบุญรูปแบบหนึ่งที่ชาวไทยเชื้อสายจีนนิยมปฏิบัติกันเป็นประจำทุกปี หรือแม้แต่ช่วงหลังๆ นี้ ชาวไทยแท้ๆ เองก็หันมากินเจกับเขาบ้าง เพื่อเป็นการชำระล้างจิตใจให้สะอาด บริสุทธิ์ อีกทั้งยังเป็นการดูแลตัวเองรูปแบบหนึ่ง เคยสงสัยกันรึเปล่าว่ากินเจยังไงให้ได้บุญมากที่สุดล่ะ ? เช่นกัน เคยได้ยินคำพังเพยว่า “ตักบาตรอย่าถามพระ” รึเปล่า ?

อ่านเพิ่มเติม: http://horoscope.sanook.com/89125/

จริงหรือไม่? กินเจห้ามออกกำลังกาย

ออกกำลังกาย ในช่วงกินเจ ได้หรือไม่

การกินเจก็เปรียบเสมือกับการรับประทานอาหารปกติ ผู้ที่ถือศีลกินเจสามารถออกกำลังกายได้ตามปกติ แต่ขอบอกไว้ก่อนเลยว่าสำหรับคุณหนุ่มๆ สาวๆ ที่รักการออกกำลังกาย หรืออยากสร้างกันเป็นจริงเป็นขนาดนั้น อยากให้ลดระดับความเข้มลงมาเสียหน่อย อาจะเป็นการออกกำลังกายปกติที่ไม่หนักมาก หากรับประทานอาหารประเภทโปรตีนไม่มากพอ การสร้างกล้ามเนื้อก็จะไม่เป็นอย่างที่เคย เผลอๆ อาจทำให้ร่างกายมีอาการอ่อนเพลียได้ง่ายอีกด้วย

อ่านเพิ่มเติม: http://health.sanook.com/1565/

กินเจอย่างไรไม่ให้อ้วน และไม่ขาดสารอาหาร

ทานเจอย่างไร ให้อ้วนน้อยที่สุด

ถึงแม้ว่าการถือศีลกินเจจะเป็นการงดเว้นเนื้อสัตว์ทุกชนิด และหันมารับประทานพืชผักแทน แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่ากินเยอะๆ แล้วจะไม่อ้วนได้ นั่นเพราะว่าเรายังคงรับสารอาหารที่เป็นแป้งเข้าสู่ร่างกายอยู่ อย่าง ข้าว หรืออาหารที่เป็นเส้นซึ่งก็ทำมาจากแป้งเช่นกัน ฉะนั้นเราก็ควรรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ เน้นว่าให้กินพืชผักสดๆ มากกว่าที่จะผ่านการดอง รวมถึงข้าว แนะนำว่าเป็นข้าวกล้องมากกว่าข้าวขาว

อ่านเพิ่มเติม: http://health.sanook.com/1465/

มาดูการกินเจตามดวง กินตามราศี

บางครั้งการกินเจถึงแม้จะมีการงดเว้นอาหารประเภทต่างๆ แต่เราก็ไม่ควรที่จะเลือกรับประทานอาหารทุกอย่าง นั่นเป็นเพราะว่าร่างกายของคนเราไม่เหมือนกัน ระบบการทำงานต่างๆ ก็ยังแตกต่างกันมาก การเลือกรับประทานอาหารที่เหมาะสมกับเรามากที่สุดก็จะเป็นผลดีต่อร่างกายทีเดียว แนะนำว่าให้เลือกรับประทานอาหารตามราศีดู ไม่ได้แปลว่าทานเข้าไปแล้วจะช่วยให้ดวงดี แต่การกินเจตามดวงตามราศีนั้นผ่านการคิดมาแล้วว่าร่างกายของคนแต่ละราศีเป็นอย่างไร

อ่านเพิ่มเติม: http://horoscope.sanook.com/89865/

 

อ่านเรื่องราวเทศกาลกินเจเพิ่มเติมได้ที่

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ข่าวด่วน

กระจ่าง มาดูกันว่า iPhone 8 ที่มีรอยบากด้านบนจะมีการแสดงผลเวลาและแบตเตอรี่อย่างไร

ก่อนหน้านี้มีการเปิดเผยข้อมูลการดีไซน์หลายส่วนของ iPhone 8 ตั้งแต่หน้าตาตัวเครื่องที่มีรอยบากด้านบนรวมถึงการใช้งานเมื่อไม่มีปุ่มโฮม ล่าสุดมีการเผยแพร่ภาพหน้าตาการแสดงผลบริเวณรอยบากมาเพิ่มเติมอีกด้วย

1433873-thumbnail

นักพัฒนา Guilherme Rambo ได้เผยแพร่ภาพและคลิปการแสดงผลหน้าจอของ  ในส่วนที่เป็นรอยบากด้านบนที่หลายๆ คนสงสัยมานานว่ามันจะแสดงผลอย่างไรหากมีอะไรกั้นตรงกลาง โดยด้านซ้ายจะแสดงเวลา ส่วนด้านขวาจะแสดงตำแหน่ง Wi-Fi, แบตเตอรี่ และสัญญาณโทรศัพท์ครับ

ในส่วนของคลิปนั้น Rambo ได้เผยแพร่ทางทวิตเตอร์ส่วนตัวของตนดังภาพด้านล่าง ซึ่งสัญลักษณ์บนส่วนแสดงผลนั้นจะมีการย่อ/ขยายเมื่อมีสัญลักษณ์อื่นๆ เข้ามามากขึ้นด้วย

There’s a nice little animation when you connect it to power pic.twitter.com/GFimRxbCAm

— Guilherme Rambo (@_inside) September 9, 2017

//platform.twitter.com/widgets.js

นอกจากนี้ Steven Troughton-Smith นักพัฒนาอีกคนยังได้เผยแพร่ภาพสเตตัสบาร์เช่นเดียวกัน โดยเป็นตัวอย่างเมื่ออุปกรณ์กำลังบันทึกหน้าจอหรือมีสายเรียกเข้า จะมีสีแสดงตรงส่วนของเวลาครับ

Here’s what the ‘double height’ statusbar looks like — screen recording, or in-call. The ears are interactive pic.twitter.com/bdacrEYMCw

— Steve T-S (@stroughtonsmith) September 9, 2017

//platform.twitter.com/widgets.js

งานนี้ก็เรียกว่าหลุดออกมาซะเกือบหมดเปลือก อีกหนึ่งอย่างที่น่าลุ้นก็คือเรื่องราคานั่นเองครับ

อ่านเพิ่มเติมที่ http://hitech.sanook.com/1433873/

 

แนะวิธีดูแลตัวเอง ห่างไกลโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่

แนะวิธีดูแลตัวเอง ห่างไกลโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่

กรมการแพทย์เผยคนไทยป่วยมะเร็งลำไส้ใหญ่อันดับต้น ๆ ระยะแรกไม่แสดงอาการ แนะทานผัก ผลไม้เมล็ดธัญพืช เลี่ยงเนื้อสัตว์และอาหารที่มีไขมันสูง ออกกำลังกายประจำทำจิตใจให้แจ่มใสจะห่างไกลจากโรคได้

นพ.สุพรรณ ศรีธรรมมา อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า ลำไส้ใหญ่เป็นส่วนล่างของระบบทางเดินอาหารติดต่อโดยตรงกับลำไส้เล็กและส่วนปลายสุดคือทวารหนัก มะเร็งลำไส้ใหญ่พบได้ทั้งชายและหญิงในอัตราที่ใกล้เคียงกัน โดยเฉพาะวัยกลางคนที่มีอายุตั้งแต่ 40 ปีขึ้นไป เชื่อว่าเกิดจากหลายปัจจัยรวมกันทั้งด้านสิ่งแวดล้อมที่มีมลพิษ ด้านพฤติกรรมการทานอาหาร เช่น ทานเนื้อสัตว์มาก ทานอาหารที่มีไขมันสูง และทานผักผลไม้ที่มีกากใยน้อยเป็นประจำ เป็นต้น และด้านพันธุกรรม เช่น โรคบางอย่างของลำไส้ใหญ่ที่เป็นโรคทางพันธุกรรมหรือติ่งเนื้องอกในลำไส้บางชนิดที่อาจกลายเป็นมะเร็งได้

นพ.สุพรรณ กล่าวว่า ผู้ป่วยโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ในระยะแรกอาจไม่มีอาการแสดงใดๆ หรืออาจมีแค่อาการปวดท้อง แน่นท้องคล้ายโรคกระเพาะอาหาร และเมื่อเป็นในระยะที่มากขึ้นอาจมีการเปลี่ยนแปลงนิสัยในการขับถ่ายอุจจาระทั้งจำนวนครั้งและลักษณะของอุจจาระที่ออกมา มีเลือดและมูกออกทางทวารหนัก ท้องอืด ท้องเฟ้อ เรื้อรัง โดยเฉพาะในผู้สูงอายุ น้ำหนักลด อ่อนเพลีย ซีด หรือโลหิตจาง โดยไม่ทราบสาเหตุ คลำก้อนได้บริเวณท้อง และมีการอุดตันของลำไส้ใหญ่ หากมีอาการดังกล่าวควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยและรักษาอย่างถูกต้อง การตรวจพบมะเร็งลำไส้ใหญ่ตั้งแต่ระยะเริ่มต้นมีความสำคัญมากเพราะจะทำให้เพิ่มโอกาสการรักษาให้หายขาดได้ สำหรับการตรวจวินิจฉัยสามารถทำได้ด้วยการตรวจเลือดในอุจจาระ การตรวจลำไส้ใหญ่โดยการสวนแป้งแบเรียมเข้าไปทางทวารหนักและการส่องกล้องตรวจลำไส้ใหญ่

"โรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ถึงแม้จะเป็นกันมากแต่ก็สามารถป้องกันได้ด้วยการรับประทานอาหารให้ครบทุกหมู่ ทานผักผลไม้เป็นประจำ หลีกเลี่ยงเนื้อสัตว์ส่วนที่ไหม้เกรียมจากการปิ้ง ย่าง ทอด รมควัน ลดอาหารไขมันสูง ควบคุมการขับถ่ายให้เป็นเวลา ส่วนผู้ที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไปหรือมีประวัติเคยเป็นโรคเกี่ยวกับทวารหนักและลำไส้ใหญ่อักเสบเรื้อรัง เนื้องอก หรือมีบิดา มารดา ญาติพี่น้อง เคยเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ ควรตรวจลำไส้และทวารหนักอย่างน้อยปีละครั้ง" อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าว

การดูแลสุขภาพให้ห่างไกลโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนักควรเริ่มตั้งแต่เด็กโดยผู้ปกครองควรปลูกฝังให้เด็กทานอาหารที่มีประโยชน์ เช่น ปลาทะเล ผักผลไม้เพราะอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุหลายชนิดที่มีประโยชน์ต่อร่างกายช่วยให้ระบบย่อยอาหารและระบบขับถ่ายทำงานได้ดี ธัญพืชประเภทข้าวกล้อง ข้าวสาลี ข้าวโพด ลูกเดือย ธัญพืชที่ไม่ผ่านการขัดสีหรือขัดสีน้อยที่สุดจะมีคุณค่าทางโภชนาการสูง

นอกจากนี้ควรหลีกเลี่ยงทานของทอด มัน เค็ม หวาน ปิ้ง ย่าง หมักดอง รวมถึงอาหารที่ถนอมด้วยเกลือและดินประสิว ไม่สูบบุหรี่ ไม่ดื่มสุรา ออกกำลังกายเป็นประจำทำจิตใจให้แจ่มใส ไม่เครียด ก็จะทำให้มีสุขภาพร่างกายแข็งแรงและช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งรวมถึงโรคต่างๆ ได้อีกด้วย

4 สัญญาณรู้ทันมะเร็งลำไส้ใหญ่

สัญญาณที่ 1

มีอาการปวดท้องเป็นพักๆ ในลักษณะที่เป็นการปวดสลับกับหายปวดตามจังหวะของลำไส้ที่มีการบีบตัวตามปกติ มีสาเหตุมาจากอุจจาระจะผ่านตำแหน่งของลำไส้ที่มีเนื้องอกได้ยากกว่าเดิม ทำให้มีอาการปวดเป็นพักๆ เมื่อก้อนเนื้องอกมีขนาดใหญ่ขึ้น อุจจาระก็จะยิ่งผ่านบริเวณนั้นได้ลำบากมากขึ้น อาการปวดก็จะค่อยๆ รุนแรงและมีการปวดบ่อยขึ้น

สัญญาณที่ 2

มีอาการท้องผูกสลับกับท้องเสีย ซึ่งนอกจากอาการปวดที่ได้บอกไปแล้วนั้น การขับถ่ายอุจจาระที่ผิดปกติไปจากเดิมจะทำให้มีอาการท้องผูกต่อเนื่องหลายวัน สลับกับการถ่ายอุจจาระเหลวในลักษณะที่มีมูกปนมา โดยอาการเช่นนี้อาจทำให้หลายคนเข้าใจผิดว่าเป็นอาการท้องเสียจากการติดเชื้อ แต่อาการที่ชี้ให้เห็นว่าเราอาจเป็นมะเร็งลำไส้นั้น ไม่ได้มีแค่อาการท้องเสียเพียงอย่างเดียว แต่ยังสลับกับอาการท้องผูก ถ่ายลำบาก เนื่องมาจากช่องว่างของลำไส้ใหญ่ที่แคบลงจากก้อนเนื้อที่เกิดขึ้น ส่วนการเกิดมูกก็เกิดขึ้นจากเซลล์มะเร็ง

สัญญาณที่ 3

มีอุจจาระสดมูกปนเลือด มีสาเหตุมาเคลื่อนตัวเนื้องอกที่ทางเกิดขึ้นในลำไส้ใหญ่นอกจากจะมีลักษณะเป็นก้อนแล้ว มักจะมีแผลแตกที่บริเวณก้อนร่วมด้วย ทำให้มีเลือดออกปนมากับอุจจาระเป็นระยะ

สัญญาณที่ 4

มีขนาดของอุจจาระที่เล็กลง โดยเกิดจากการที่รูของลำไส้ใหญ่แคบลง ฉะนั้น ก่อนกดชักโครก ให้หมั่นสังเกตลักษณะอุจจาระของตัวเองทุกครั้งว่ามีความผิดปกติหรือไม่

สาเหตุการเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่

การปฏิสนธิมะเร็งลำไส้ใหญ่นั้น ภายในทางการแพทย์ยังไม่ประจักษ์แจ้งสาเหตุการเกิดที่แน่ชัด แต่ได้มีการพบปัจจัยที่อาจมีส่วนทำให้เกิดโรคนี้ ได้แก่

การกลายพันธุ์ของยีน

เมื่อยีนในร่างกายมีการกลายพันธุ์ ก็จะเปล่าสามารถควบคุมงานทำงานของเซลล์คว้า สุดท้ายก็จะเติบโตกลายคือเซลล์มะเร็งที่ลุกลามไปยังเซลล์ข้างเคียงก่อนที่จะก่อตัวเป็นเนื้อร้าย ซึ่งยีนนั้นมีอยู่ในทุกเซลล์ของร่างกายและถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรมที่ควบคุมการทำงานสิ่งเซลล์ต่างๆ จากรุ่นหนึ่งไปสู่อีกรุ่นหนึ่งด้วย

การรับประทานอาหาร
ในปัจจุบัน รูปแบบการรับประทานอาหารมีความกลับไปในหลากหลายด้าน ยิ่งแห่งทุกวันนี้บ้านเราก็มักจะนิยมรับประทานอาหารในแบบตะวันตกมากขึ้น ซึ่งเป็นอาหารที่เต็มไปด้วยไขมัน มีกากใยอาหารต่ำ จากการสำรวจพบว่า ผู้ที่รับประทานอาหารในลักษณะนี้มีโอกาสที่จะเป็นมะเร็งลำไส้ แต่ยังไม่สามารถบอกถึงความพันธ์สรรพสิ่งการเกิดโรคกับอาหารการกินที่ชัดเจน

สาเหตุอื่นๆ ที่อาจกระตุ้นให้เกิดโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ เช่น

พันธุกรรม : ในครอบครัวมีประวัติการป่วยเป็นโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ โดยเฉพาะญาติที่เป็นสายตรง เช่น พ่อ แม่ พี่ หรือน้อง ก็จะมีความเสี่ยงในการเกิดโรค ที่สำคัญ ความเสี่ยงนั้นจะยิ่งเพิ่มมากขึ้น หากผู้ที่มีประวัติการป่วยเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่เป็นก่อนอายุ 45 ปี
อายุที่เพิ่มมากขึ้น : ยิ่งอายุที่เพิ่มมากขึ้น ความเสี่ยงที่จะเป็นโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ก็จะมีมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป แต่ไม่ได้หมายความว่าอายุน้อยจะไม่พบ ซึ่งก็มีความเป็นไปได้ว่าจะป่วยด้วยโรคนี้ได้เช่นเดียวกัน
การอักเสบของลำไส้ : การอักเสบทำได้เกิดขึ้นจากโรคเรื้อรังที่เกี่ยวกับลำไส้ใหญ่ อาทิ ลำไส้ใหญ่อักเสบ หมายความว่าแผลเรื้อรัง หรือโรคโครห์น
ไม่ชอบเคลื่อนไหวร่างกาย
การสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์
การเข้ารับการฉายแสงเพื่อรักษามะเร็งบริเวณช่วงท้อง
ส่งผลจากโรคอื่นๆ อาทิ โรคอ้วน โรคเบาหวาน

อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่ http://health.sanook.com/4189/

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : กรดไหลย้อน

อาเล็ก เปิดใจไม่มีกั๊ก เต้ย อยู่ในขั้นพัฒนาความสัมพันธ์

อาเล็ก เปิดใจไม่มีกั๊ก เต้ย อยู่ในขั้นพัฒนาความสัมพันธ์

อาเล็ก เปิดใจไม่มีกั๊ก เต้ย อยู่ในขั้นพัฒนาความสัมพันธ์

S! News

สนับสนุนเนื้อหา

ออกมาเปิดใจแบบไม่มีกั๊กกันเลยทีเดียว หลังจากที่มีกระแสเม้าท์มาหนาหูว่ากำลังความสัมพันธ์ของพระเอกหนุ่มหน้าตี๋ “ กับนางเอกสาวร่างเล็ก “เต้ย จรินทร์พร” ดูแล้วเหมือนจะเกินเพื่อนหรือเปล่า เพราะหลายคนต่างเห็นทั้งสองไปไหนมาไหนด้วยกันบ่อยๆ

ล่าสุดในงาน เดอะมอลล์ เจทั่วทิศ กุศลจิตทั่วไทย “อาเล็ก ธีรเดช” ก็ได้ออกมายอมรับว่า ตอนนี้กำลังศึกษาดูใจกับฝ่ายหญิงอยู่จริง อยากจะให้ค่อยๆ เรียนรู้กันไป ไม่ได้อยากจะปิดบังอะไรอยู่แล้ว

ไปทำบุญที่หัวหินมาเป็นยังไงบ้าง ?
“ก็ไปปฎิบัติธรรมครับ เต้ยเขาชวนไป เป็นวัดที่เต้ยเขาเป็นลูกสิทธิ์อยู่แล้วครับ แล้วช่วงนั้นก็เป็นช่วงเข้าพรรษาเรามีโอกาสว่างอยู่ก็เลยไปทำครับ ไปทั้งหมด 3 วัน หลายคนคงงงๆ เพราะผมอาจจะไม่ใช่ทางนี้ แต่ด้วยช่วงนี้เป็นช่วงพระราชพิธี ก็เลยอยากปฎิบัติธรรมเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลให้ในหลวงรัชกาลที่ 9ครับ”

ไปกันหลายคนหรือแค่สองต่อสอง ?
“ไปกันหลายคนครับ แต่เพื่อนดาราไม่มีไป จะมีเพื่อนๆ คนอื่นไปด้วย ไม่ได้ไปกันแค่สองคนครับ”

คู่เราถูกหลายคนจับตามองว่าเป็นแฟนกัน
“ก็คุยๆ กันอยู่ครับ ผมก็มีความรู้สึกดีๆ ให้ (ยิ้ม)”

ความรู้สึกนี้เกิดขึ้นตอนไหน ?
“เราเป็นเพื่อนกันมาก่อน แต่เราอย่าไปลงลึกถึงตรงนั้นเลยครับ เรียกว่าเป็นกัลยาณมิตรที่ดีต่อกันครับ เต้ยเป็นคนที่ชอบทำบุญอยู่แล้ว เป็นคนที่ทีความคิดดี อย่างล่าสุดที่ไปปฎิบัติธรรม เต้ยเขาก็ชวนเราไป ก็เรียกว่าชวนกันทำเรื่องดีๆ ดีกว่าครับ”

หรือเพราะมีคนคอยชงให้ เราถึงสานสัมพันธ์ ?
“ไม่มีใครชงครับ มันเป็นเรื่องของความรู้สึก อย่าไปลงดีเทลมันดีกว่าครับ”

เพื่อนในกลุ่มว่ายังไงบ้าง ?
“จริงๆ เราไม่ได้ปิดบังอะไรครับ แต่แค่ยังไม่ได้บอกใครมากกว่า”

แต่ปกติ “บอย ปกรณ์” จะถูกแซวหนักกว่าเรา ?
“มันเป็นเรื่องที่เซนซิทีฟระหว่างเพื่อนด้วยครับ อีกอย่างมันไม่จำเป็นที่จะต้องป่าวประกาศให้ใครรู้ด้วยครับ”

คุยกันมานานหรือยัง ?
“สักพักแล้วครับ น่าจะประมาณ 5-6 เดือน สถานะตอนนี้เรียกว่าผมกำลังตั้งใจที่จะทำความรู้จักให้มากขึ้นครับ”

แสดงว่าอยู่ในขั้นพัฒนาความสัมพันธ์ใช่ไหม ?
“จะเรียกว่าแบบนั้นก็ได้ครับ”

เต้ยดูเหมือนเปิดใจให้เราไหม ?
“ไม่ทราบเหมือนกันครับ เราคุยกันก็อยากจะทำแต่เรื่องดีๆ ชักชวนกันทำแต่เรื่องดีๆ มากกว่า อย่างที่ภาพออกมา เราไปไหนเราก้ไม่ได้ปิดบังกันอยู่แล้ว แต่อย่างที่บอก มันไม่ใช่เรื่องที่เราคุยกับใครแล้วต้องไปป่าวประกาศให้ใครรู้ เรายังไม่ได้ลงภาพอะไรกันเลย ภาพที่ออกมาส่วนใหญ่เป็นภาพจากคนอื่น”

ความรู้สึกเราสองคนไปคลิกกันตรงไหน ?
“เต้ยเขาเป็นคนดีครับ อย่างที่ทุกคนทราบ เขาเป็นคนที่น่ารักสดใสอยู่แล้ว เป็นคนให้คำปรึกษาได้ดี แล้วคอยชวนทำแต่เรื่องดีๆ ครับ”

ครอบครัวทั้งสองว่ายังไงบ้าง ?
“ก็ทราบครับ”

มีเวลาเจอกันมากน้อยแค่ไหน ?
“ก็มีบ้างครับ”

จากนี้จะวางตัวกับเต้ยยังไง ?
“จริงๆ เราทำอะไรทุกอย่าง ก็ด้วยความที่เต้ยเป็นผู้หญิง แล้วผมเป็นผู้ชาย มีอะไรผมก็ต้องให้เกียรติเขาก่อนเสมอ”

แฟนคลับว่ายังไงบ้าง ?
“อันนี้ยังไม่ทราบเหมือนกันครับ ต้องรอดูกันไปเรื่อยๆ เราสองคนมั่นใจ อีกอย่างผมก็ไม่ได้ไปทำอะไรให้เดือดร้อนใคร ทุกอย่างมีแต่ความจริงใจ ทุกอย่างมันเป็นความรู้สึกล้วนๆ ก็อยากจะให้ทุกคนเข้าใจด้วยครับ”

แบบนี้กระแสจะกระทบถึงคู่จิ้น “ธีรณี” หรือเปล่า ?
“มันเป็นความรู้สึก เป็นความคิดเห็นของแต่ละคนอยู่แล้วครับ เราไม่สามารถบังคับความรู้สึกของใครได้ อย่างที่บอกเราทำทุกอย่างด้วยความบริสุทธิ์ใจ มั่นใจว่าไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน ก็อยากจะให้เข้าใจกันด้วยครับ”

อ่านเพิ่มเติมได้ที่ http://news.sanook.com/3933554/

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ข่าวด่วน

จับตัวจริง เปิดตัว Nokia 8 มือถือเรือธง กล้องคู่ ถ่ายทำ Live แบบ Bothie ได้

จับตัวจริง เปิดตัว Nokia 8 มือถือเรือธง กล้องคู่ ถ่ายทำ Live แบบ Bothie ได้

จับตัวจริง เปิดตัว Nokia 8 มือถือเรือธง กล้องคู่ ถ่ายทำ Live แบบ Bothie ได้

แบไต๋

สนับสนุนเนื้อหา

การกลับมาอย่างยิ่งใหญ่ของ Nokia ภายใต้การดูแลของบริษัท HMD Global เผยโฉมสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่อย่าง  สมาร์ทโฟนเรือธงที่มาพร้อมระบบปฎิบัติการแอนดรอยด์เวอร์ชั่นใหม่ล่าสุดในรูปแบบ Pure Android ไร้แอปแปลกเลียนแบบ พร้อมนิยามใหม่ของการถ่ายทอดไลฟ์สไตล์ผ่านเลนส์แบบเรียลไทม์ด้วยทีแรกของ 3 ปรากฎการแห่งสิ่งใหม่ที่เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบสร้างคอนเทนต์ (content creator) นอกเหนือจากนี้ ตัวเครื่องเป็นสิ่งของอลูมินัม บางเด็ด พร้อมการออกแบบอย่างสวย แฝงไปด้วยคงทนถาวร แล้วก็แนวความคิดประดิษฐ์ Nokia 8 ดำเนินงานด้วยระบบปฎิบัติการแอนดรอยด์เวอร์ชั่นใหม่ล่าสุด รวมถึงองค์ประกอบที่มาพร้อมกับกล้องถ่ายรูปคู่แบบ Dual-Camera แล้วก็คุณภาพของ ZEISS เลนส์กล้องถ่ายรูปชั้นยอดเยี่ยมสุดยอดเพื่อตอบโจทย์การใช้งานด้านการถ่ายภาพ

 

คุณสมบัติเด่นของ Nokia 8 คือ กล้องถ่ายวีดีโอแบบคู่หรือ Dual-Sight ที่ฉีกกฎของการ Live Steaming ครั้งแรกของโลก ช่วยเพิ่มมิติของการสื่อสารแบบเรียลไทม์ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลังพร้อมกันผ่านทางโซเชียลมีเดียอย่าง Facebook หรือทาง YouTube ได้ Nokia 8 ไม่ได้เป็นเพียงนวัตกรรมที่คิดค้นเพื่อรองรับการถ่ายภาพและวิดีโอที่มีคุณภาพเท่านั้น แต่ยังเป็นนวัตกรรมที่ทำให้ผู้ใช้งานสามารถรังสรรค์เรื่องราวแห่งความประทับใจผ่าน ภาพ แสง สี และเสียง ด้วยเทคโนโลยีล่าสุดจากโนเกียไปสู่สังคมออนไลน์อย่างง่ายดายและรวดเร็วด้วยการกดพียงครั้งเดียว

นอกจากนั้น Nokia 8 ยังเป็นสมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นแรกที่รองรับเทคโนโลยีเสียงแบบ Nokia OZO Audio ที่ให้มิติเสียงแบบ 360 องศา เพื่อความสมบูรณ์ของคุณภาพเสียงอย่างกับผู้ฟังได้อยู่ที่นั่นจริงๆเสมือนเอาเทคโนโลยีในหนังฮอลลีวูด (Hollywood Technology) มาวางไว้บนมือของคุณ ทั้งยังเรื่องของประสิทธิภาพของภาพแล้วก็เสียงขนาด 4K ที่คุณแล้วก็สหายๆบนโลกออนไลน์จะได้รับประสบการณ์ที่สมจริงสมจัง รวมทั้งยังช่วยบันทึกเสียงได้จากทุกทิศทุกทางอีกด้วย

สำหรับความพิถีพิถันในการผลิต Nokia 8 ที่ตัวเครื่องทำจากวัสดุที่เป็นอลูมิเนียมอัลลอยที่ถูกขึ้นรูปเป็นชิ้นเดียวกัน ไร้รอยต่อ ภายใต้แบบพิมพ์อลูมิเนียมเดียวกันกับรุ่น 6000 Series ซึ่งผลิตจากวัสดุที่ได้รับการคัดสรรมาเป็นพิเศษสำหรับการผลิต Nokia 8 โดยเฉพาะ มีขอบเครื่องหนาเพียง 4.6 มิลลิเมตร ส่วนตัวเครื่องความหนาเฉลี่ย 7.3 มิลลิเมตร พร้อมดีไซน์ที่สวยงาม รวมถึงจอสัมผัสที่มีคุณสมบัติสูง ผ่านกระบวนการขัดเงา การประกอบตัวเครื่อง และระบบการทำงานด้วยความใส่ใจในรายละเอียดในทุกขั้นตอนของกระบวนการผลิตกว่า 20 ชั่วโมง นอกจากนี้ โทรศัพท์เครื่องนี้มาพร้อมกับขุมพลังชิปเซ็ต Qualcomm SnapdragonTM 835 Mobile Platform และระบบเพียวแอนดรอยด์ (Pure Android) ที่มีความปลอดภัยและอัพเดทอยู่เสมอ เพื่อให้ได้สมาร์ทโฟนแห่งอนาคตที่มีความสมบูรณ์ที่สุด

เพราะความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ถือเป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับโนเกีย สมาร์ทโฟน แอนดรอยด์ของโนเกียจึงมีการปรับเปลี่ยนเพื่อความทันสมัย โดยเฉพาะระบบรักษาความปลอดภัยเป็นประจำทุกเดือนเพื่อให้มั่นใจว่าผู้ใช้จะได้รับประสบการณ์ที่ดีและน่าประทับใจจาก Nokia 8 และระบบปฏิบัติการเวอร์ชั่นใหม่ๆ จากแอนดรอยด์

เหนือกว่าการเซลฟี่ มากกว่าด้วยการถ่ายแบบ “Bothie”

หลายเรื่องราวรอบตัวเรามีสองด้านให้ต้องค้นหาอยู่เสมอ เช่นเดียวกับนวัตกรรม Dual-Sight ของ Nokia 8 จะทำให้คุณสามารถสร้างสรรค์และนำเสนอภาพความประทับใจได้อย่างสมบูรณ์แบบ โดยทั้งกล้องหน้าและกล้องหลังได้ถูกพัฒนาให้มาพร้อมกับเลนส์ ZEISS สุดคมชัด นอกจากนี้ ยังเพิ่มลูกเล่นในแบบของคุณเองผ่านระบบการทำงาน Dual-Sight ซึ่งเหมาะสำหรับนักสร้างคอนเทนต์ (Content creator) ที่สามารถนำเสนอเรื่องราว และไลฟ์สไตล์ของคุณผ่านโซเชียลได้อย่างไม่ซ้ำใครในแบบ “Bothie” ซึ่งเป็นฟังก์ชั่นพิเศษของแอพลิเคชั่นกล้องในแบบเฉพาะของ Nokia 8 แฟนๆ ยังสามารถถ่ายภาพและอัพโหลดไปเก็บไว้ที่ Google Photos ได้แบบไม่จำกัดอีกด้วย

 

 

การวางจำหน่าย

Nokia 8 มีให้เลือก 4 สี ได้แก่ สีน้ำเงินเงา สีน้ำเงินด้าน สีทองแดง(ไม่มีวางจำหน่ายในไทย) และสีเงิน

เปิดราคาวางจำหน่ายในไทยราคาต่ำกว่าทั่วโลกเพียง 19,500 บาทเท่านั้น

เปิดให้ซื้อได้ตั้งแต่วันที่ 29 สิงหาคมนี้เป็นต้นไป!! ความเห็นส่วนตัว

หลังจากที่ได้ทดสอบในงานก็เรียกได้ว่าค่อนข้างประทับใจในความเร็วของระบบมือถือที่มาพร้อม Pure Android และความลื่นไหลของกล้องที่สามารถถ่ายภาพออกมาได้สวยงาม มีระบบ Live Bokeh หรือไลฟ์โบเก้ ที่คล้าย ๆ Galaxy Note 8 ที่เพิ่งเปิดตัวไปหมาด ๆ อีกต่างหาก ส่วนด้านภาพที่ออกมาระหว่างถ่ายภาพ 1 กล้องกับ 2 กล้องยังไม่แตกต่างกันมากนัก อาจจะต้องรออัปเดทเฟิร์มแวร์ตัวจริงก่อนถึงจะพอมองเห็นความแตกต่างได้

และที่ชอบมาก ๆ คือการถ่ายวีดิโอ 4K หน้า – หลังพร้อมกันได้ (ที่เขาเรียกว่า Bothie) งานนี้บอกเลยว่าภาพวีดิโอที่เก็บมาชัดแจ๋วแน่นอน แถมสามารถ Facebook, YouTube Live แบบ Bothie ผ่านโหมดกล้องได้เลยอีกด้วย แต่เป็นที่น่าเสียดายว่ายัง Live บน Fanpage ไม่ได้ในปัจจุบัน รวมไปถึงตัวเครื่องที่ทำจากอลูมิเนียมทั้งเครื่อง จับแล้วรู้สึกถึงความคงทนมาก ๆ แต่ป้องกันตกน้ำไม่ได้ (เป็น IP65 กันน้ำสาดได้อย่างเดียว)

สรุปหลังจากที่ได้จับมาเรียกได้ว่า Nokia 8 ตัวนี้มีความเป็นโทรศัพท์ระดับ Premium สมเป็นเจ้าพ่อวงการมือถือของยุคเก่าที่กำลังจะกลับมาผงาดในยุคนี้เลยก็ว่าได้ ทั้งด้านราคาที่สมน้ำสมเนื้อ (อย่าเอาไปเทียบกับ Xiaomi MI6 ก็พอ) ประสิทธิภาพเยี่ยมทั้งเครื่องและกล้อง บอกเลยว่าสาวกไม่ควรพลาดจริง ๆ ครับ

ข้อมูลทางเทคนิคของ Nokia 8

  • ข้อมูลเครือข่าย (Network)
    • – GSM: 850/900/1800/1900
    • – WCDMA: 1, 2, 5, 8
    • – TDS-CDMA: 34, 39
    • – LTE: 1, 2, 3, 4, 5, 7, 8, 20, 28, 38, 39, 40, 41
  • ความเร็วเครือข่าย
    • LTE Cat 9, 3CA, 450Mbps DL / 50Mbps UL
    • รองรับการใช้งานแบบ 2 ซิม
  • ระบบปฏิบัติการ
    • Android Nougat 7.1.1
  • หน่วยประมวลผลและชิปเซ็ต: Qualcomm® Snapdragon ™ 835
  • MSM8998 (4 * 2.45GHz Qualcmm® Kryo ™ 4 * 1.8GHz Kryo)
  • RAM 4GB LPPDDR4X
  • หน่วยความจำภายใน 64 GB พร้อมช่องเสียบการ์ด MicroSD (รองรับสูงสุด 256 GB)
  • ฟอร์มแฟคเตอร์ สแต็คพอยต์ IP54 touch monoblock พร้อมปุ่มระบบสัมผัส capacitive
  • จอแสดงผล: 5.3 “IPS LCD QHD 2560 x 1440, ความสว่างหน้าจอ 700nts, Corning®Gorilla® Glass 5, 2.5D Glass
  • เลนส์กล้องจาก ZEISS
    • กล้องหลัก: 13 ล้านพิเซล ขนาดรูรับแสง f / 2.0, แฟลชคู่
    • กล้องด้านหน้า: 13 ล้านพิเซล ขนาดรูรับแสง f / 2.0, พร้อมแฟลช
  • ระบบเชื่อมต่อ
  • ระบบเซ็นเซอร์: ประเภท C, USB3.1 Gen 1 (5Gbps)
    • ช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มม.
    • เซ็นเซอร์วัดแสงรอบข้าง
    • เครื่องวัดความใกล้เคียง, เครื่องวัดความเร็วในการวัด, เข็มทิศ E, เข็มหมุน, Fingerprint Sensor
  • แบตเตอรี่
    • ประกอบด้วยแบตเตอรี่ 3090 mAh พร้อมQualcomm® Quick Charge ™ 3.0
      (18 วัตต์, 5V / 2.5A, 9V / 2A, 12V / 1.5A)
  • ฟังก์ชั่นมัลติมีเดีย
    • รองรับไฟล์เสียงแบบ MP3, M4A, AAC, OGG, WAV, AMR, AWB (AMR-WB), FLAC, MIDI (MID, MIDI, XMF, MXMF, IMY, RTTTL, RTX, OTA)
    • รองรับไฟล์วิดีโอแบบ MP4, 3GP, 3G2, AVI, MKV, WEBM
  • ขนาด
    • 151.5 x 73.7 x 7.9 มม. (camera bump ขนาด 0.4 มม.)
    • น้ำหนักเบา เพียง160 กรัม

รวมเรื่องราว nokia 8 ที่นี่ คลิ๊ก!!!

สนับสนุนเนื้อหา http://hitech.sanook.com/1432857/

รวมเมนูอาหารเจ ไม่จำเจ ทำเองได้ ไม่ง้อร้าน

รวมเมนูอาหารเจ ไม่จำเจ ทำเองได้ ไม่ง้อร้าน

รวมเมนูอาหารเจ ไม่จำเจ ทำเองได้ ไม่ง้อร้าน เกี่ยวกับ อาหารเจ

S! Women

สนับสนุนเนื้อหา

นับถอยหลังเข้า "เทศกาลกินเจประจำปี 2560" แล้ว ในปีนี้เริ่มตั้งแต่วันศุกร์ที่ 20 ตุลาคมไปจนถึงวันเสาร์ที่ 28 ตุลาคม รวม 9 วัน แต่บางคนอาจจะเริ่มล้างท้องกันตั้งแต่วันที่ 19 ตุลาคม รวมทั้งสิ้นเป็น 10 วันก็ได้

"เทศกาลกินเจหรือ "กินเจ" หรือบางแห่งเรียกว่า "ประเพณีถือศีลกินผัก" เป็นประเพณีแบบลัทธิเต๋ารวม 9 วัน กำหนดเอาวันตามจันทรคติ คือ เริ่มต้นตั้งแต่วันขึ้น 1 ค่ำ ถึง ขึ้น 9 ค่ำ เดือน 9 ตามปฏิทินจีนของทุกปี มีจุดเริ่มต้นจากประเทศจีนมานานแล้ว โดยมีตำนานเล่าขานกันหลายตำนาน 

จุดประสงค์ของการกินเจ มีจุดเริ่มต้นที่แตกต่างกันไป แต่จุดประสงค์หลักมี 3 ประเภทดังนี้

กินเพื่อสุขภาพ อาหารเจเป็นอาหารประเภทชีวจิต เมื่อกินติดต่อกันไปช่วงเวลาหนึ่งจะทำให้ร่างกายเกิดการปรับตัวให้อยู่ในสภาวะสมดุล สามารถขับพิษของเสียต่างๆ ออกจากร่างกายได้ ปรับระบบไหลเวียนโลหิต ระบบทางเดินอาหารให้มีเสถียรภาพ

กินด้วยจิตเมตตา เนื่องจากอาหารที่เรากินอยู่ในชีวิตประจำวัน ประกอบด้วยเลือดเนื้อของสรรพสัตว์ ผู้มีจิตเมตตา มีคุณธรรมและมีจิตสำนึกอันดีงามย่อมไม่อาจกินเลือดเนื้อของสัตว์เหล่านั้นซึ่งมีเลือดเนื้อ จิตใจและที่สำคัญมีความรักตัวกลัวตายเช่นเดียวกับคนเรา

กินเพื่อเว้นกรรม ผู้ที่เข้าใจอย่างลึกซึ้งย่อมตระหนักว่าการกินซึ่งอาศัยการฆ่าเพื่อเอาเลือดเนื้อผู้อื่นมาเป็นของเราเป็นการสร้างกรรม แม้ว่าจะไม่ได้เป็นผู้ลงมือฆ่าเองก็ตาม การซื้อจากผู้อื่นก็เหมือนกับการจ้างฆ่าเพราะถ้าไม่มีคนกินก็ไม่มีคนฆ่ามาขาย กรรมที่สร้างนี้จะติดตามสนองเราในไม่ช้าทำให้สุขภาพร่างกายอายุขัยของเราสั้นลงเป็นบ่อเกิดของโรคภัยไข้เจ็บ



อาหารเจ
อาหารเจเป็นอาหารที่ปรุงขึ้นโดยไม่มีเนื้อสัตว์ หรือผลิตภัณฑ์ที่ได้จากสัตว์ (เช่น นม ไข่ น้ำผึ้ง น้ำปลา เจลาติน คอลลาเจน) และไม่ปรุงด้วยผักที่มีกลิ่นฉุน ได้แก่ กระเทียม หอม (ทุกชนิดอาทิ ต้นหอม หัวหอม หอมแดง) หลักเกียว กุยช่าย และผักชี

บ้างก็รวมผักชีและเครื่องเทศรสเผ็ดร้อนเข้ามาด้วย เพราะผักเหล่านี้ส่งผลกระทบต่อธาตุในร่างกาย บ้างเชื่อว่าผักเหล่านี้เพิ่มความกำหนัดหรือมาจากเลือดของสัตว์ตามตำนานจีน ทำให้อาหารเจไม่มีกลิ่นคาว เนื่องจากการงดเนื้อสัตว์ ทำให้ผู้ที่กินเจหันมาบริโภคธัญพืชในธรรมชาติเพื่อให้ได้มาซึ่งโปรตีน ซึ่งส่วนใหญ่ได้แก่ ผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง

สำหรับสาวๆ ที่ถือศีล กินเจ กันอย่างสม่ำเสมอ ถือเป็นเรื่องดี Sanook! Women ขอสนับสนุนการกินเจให้สัมฤทธิ์ผลด้วยการ "รวมเมนูอาหารเจ" ที่ไม่จำเจ และทำกินเองได้มาฝากหลายเมนูด้วยกันค่ะ

ก๋วยเตี๋ยวลุยสวนเจ วิธีทำคลิก!

 

น้ำพริกอ่องเจ วิธีทำคลิก!

 

แกงเขียวหวานลูกชิ้นเจ วิธีทำคลิก!

 

 

ก๋วยเตี๋ยวหลอดเจ วิธีทำคลิก!

ข้าวผัดน้ำพริกเผาเจกับหมี่กึงทอดกรอบ วิธีทำคลิก!

 

ข้าวอบเผือกเจ วิธีทำคลิก!

 

กะหล่ำปลีตุ๋นเจ วิธีทำคลิก!

 

อ่านเรื่องราวเทศกาลกินเจเพิ่มเติมได้ที่

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ข่าววันนี้