วันพฤหัสบดีที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2561

ดวงสมพงษ์ ของชาว ราศีเมษ กับ ราศีพฤษภ โดยอาจารย์ลี่

คุณกับคนรักของคุณเข้ากันได้รับดีหรือเปล่า คุณรู้หรือมิว่าศาสตร์แห่งดวงดาวช่วยให้คุณเข้าใจคนรักของคุณมากขึ้นได้ เพียงแค่รู้ราศีของเขาหรือเธอเท่านั้น คู่แท้พยากรณ์จะพาคุณไปค้นพบความสวยงามและความท้าทายของแต่ละความสัมพันธ์ ลักษณะเฉพาะตัวของแต่ละราศีจะบอกคุณได้ว่าคนสองคนที่มีนิสัยและบุคลิกแตกต่างกันจะมีความสัมพันธ์ที่ราบรื่นหรือไม่ ใครจะเป็นผู้นำ และนิสัยแบบไหนที่จะช่วยเสริมสร้างหรือบั่นทอนความสัมพันธ์ อ่านคู่แท้พยากรณ์ แล้วการสื่อสารกับคนรักจะเป็นเรื่องง่ายสำหรับคุณ

เมื่อชาวเมษสองคนมาสปาร์คกัน ก็ปังเหมือนพลุแตก รับประกันความแซ่บ ข้อคดีสัมพันธ์ของคุณจักเต็มจรด้วยการแข่งขันและความท้าทาย คุณสองคนต่างเป็นกระจกเงาให้กันและกัน และเข้าใจความรักอิสระของอีกฝ่ายหนึ่งได้เป็นอย่างดี แต่บางครั้งคุณก็อาจทำตัวเป็นเจ้าข้าวเจ้าของกันขึ้นมา เหมือนแกะภูเขาสองตัวที่พุ่งเข้าใส่แล้วใช้เขาขวิดกัน คุณต้องเรียนรู้ที่จะไม่เอาชนะคะคานกันมากเกินไป ถ้าทำได้ ความสัมพันธ์ก็จะราบรื่น

เมื่อชาวราศีเมษกับราศีพฤษภตกหลุมรักกัน เรื่องสำคัญคือเรื่องสมดุล ชาวเมษมักกระโจนพรวดพราดเข้าสู่ความสัมพันธ์ในที่ขณะในที่ชาวพฤษภเลือกที่จะค่อยเป็นค่อยไป ชาวพฤษภชอบความโรแมนติกและคาดหวังการแต่งงาน ซึ่งทั้งสองเรื่องเป็นประเด็นอ่อนไหวของชาวเมษ สิ่งนี้อาจยังไม่ตายปัญหา แต่ในอีกแง่หนึ่งก็อาจพูดได้ว่าความสัมพันธ์ของคุณทั้งคู่เป็นประสบการณ์และการเรียนรู้อันยิ่งใหญ่ เพราะชาวพฤษภจะช่วยแยกออกชาวเมษทำไหนได้สมเหตุสมผลกระทั่งเดิม ส่วนชาวเมษก็จะทำให้ชาวพฤษภประกอบด้วยชีวิตชีวิต

ระดับความเป็นคู่แท้

 

ความอดทน มีเหตุผล และสุภาพอ่อนโยนของชาวพฤษภคือสิ่งที่ชาวเมษหลงใหล เกี่ยวกับชาวเมษ ชาวพฤษภเป็นดั่งหินผาที่แสนมั่นคงและซื่อสัตย์ ส่วนชาวพฤษภก็เห็นความพิเศษของชาวเมษที่ตัวเองไม่มี คือการรู้จังหวะ ชาวเมษรู้เสมอว่าเมื่อไหร่ที่ควรฉกฉวยโอกาสที่เข้ามาในชีวิตเอาไว้ ซึ่งนี่คือความสมดุล โปร่งบางครั้งชาวเมษก็สร้างสีสันด้วยการพยายามเร่งรัดให้ชาวพฤษภตัดสินใจในบางเรื่อง แต่ชาวพฤษภก็สามารถโน้มน้าวแบ่งออกชาวเมษใจเย็นลงได้เสมอ ชาวเมษให้ความตื่นเต้นมีชีวิตชีวากับความสัมพันธ์ ในขณะที่ชาวพฤษภให้ความโรแมนติกและมั่นคงปลอดภัย ตราบชาวเมษร่ำร้องจะทำอะไรแบบด่วนๆ ชาวพฤษภก็สามารถทำให้ชาวเมษเห็นว่า เรื่องนุ่มนวลและค่อยเป็นค่อยอยู่นั้นก็มีดีเหมือนกัน

ราศีเมษนั้นได้รับอิทธิพลจากดาวอังคาร ส่วนราศีพฤษภได้รับรับอิทธิพลจากดาวศุกร์ ดาวสองดวงนี้เข้ากันได้ดี เหมือนสองด้านบนเหรียญเดียวกัน เป็นความสมดุลระหว่างพลังของความเป็นชาย(ดาวอังคาร)และพลังของความทั้งเป็นหญิง(ดาวศุกร์) ราศีเมษเป็นธาตุไฟ ส่วนราศีพฤษภเป็นธาตุดิน ชาวเมษจะพุ่งไปตามหาโชคชะตาของตัวเองในขณะที่ชาวพฤษภจะพิจารณาก่อนว่าเส้นทางนั้นปลอดภัยหรือไม่ บางครั้งชาวพฤษภก็จะทำตัวเป็นเจ้าข้าวเจ้าของ ซึ่งชาวเมษแสนจะหน่าย แต่ถ้าชาวเมษทำให้ชาวพฤษภมั่นใจข้างในความสัมพันธ์และเชื่อใจในความรักของคุณได้ ชาวพฤษภก็จะโอนอ่อนผ่อนปรนและอดทนกับความรักอิสระของคุณได้มากขึ้น

ชาวเมษมิเคยอยู่กับร่องกับรอย ในขณะที่ชาวพฤษภก็ไม่เคยเปลี่ยนเนื้อความคิด ชาวเมษมีเสน่ห์พร้อมทั้งความสามารถในการแก้ไขสถานการณ์ (ซึ่งสองเรื่องนี้ชาวพฤษภแสนจะต่ำเตี้ยเรี่ยดิน) ส่วนชาวพฤษภก็ไม่เคยแพ้ใครหากถกเถียงกันด้วยเหตุด้วยผล คุณตลอดคู่ต่างต้องการเป็นผู้นำ การโอนอ่อนผ่อนปรนและประนีประนอมจึงจำเป็นมาก สิ่งที่ดีที่สุดในความสัมพันธ์สรรพสิ่งชาวเมษกับพฤษภคือความสมดุล ยังมีชีวิตอยู่ความสมดุลระหว่างพลังของความเป็นชายกับความเป็นหญิง ระหว่างความหุนหันพลันแล่นกับความรอบคอบ เรื่องสามารถในการเรียนรู้จากอีกฝ่ายหนึ่งจะทำให้ความสัมพันธ์ของคุณราบรื่น

 อ่านเพิ่มเติมได้ที่ http://horoscope.sanook.com/play/lovematching/

 

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ดวงสมพงษ์

ไขปัญหาข้องใจ "ไซนัสอักเสบ" เกิดขึ้นได้อย่างไร?

ไขปัญหาข้องใจ "ไซนัสอักเสบ" เกิดขึ้นได้อย่างไร?

ไขปัญหาข้องใจ "ไซนัสอักเสบ" เกิดขึ้นได้อย่างไร? เกี่ยวกับ ไซนัสอักเสบ

S! Health

สนับสนุนเนื้อหา

ไซนัส คืออะไร ? 

ไซนัส ก็คือ โพรงอากาศเล็กๆ ที่อยู่ภายในกะโหลกศีรษะบริเวณรอบๆ จมูก โดยจะมีทางเชื่อมสำหรับเปิดโพรงจมูกอยู่หลายจุดทั้งด้านซ้ายและด้านขวา มีหน้าที่ให้ความอบอุ่นและความชื้นแก่อากาศที่เราสูดเข้าไปในทางเดินหายใจ อีกทั้งยังช่วยในการปรับเสียงพูด ช่วยในเรื่องของการรับรู้กลิ่น รวมถึงสร้างเมือกเพื่อให้ความชื้นและชะล้างโพรงจมูก 

ภายในเยื่อบุโพรงไซนัส (โพรงอากาศ) จะมีขนอ่อน หรือที่เรียกกันว่า Cilia ทำหน้าที่โบกพัดเพื่อระบายเอาเมือกที่เป็นเสมหะ หรือน้ำมูกออกมา ซึ่งในภาวะปกติจะมีการระบายของเมือกที่สร้างขึ้นในโพรงไซนัสลงมาที่รูเปิดในโพรงจมูกเพื่อให้ความชื้นและชะล้างโพรงจมูก แต่ถ้าหากรูนั้นถูกปิดกั้นจากอาการต่างๆ อาทิ อาการเป็นหวัด ที่เยื่อบุจมูกและไซนัสจะมีลักษณะที่อักเสบบม อาการติดเชื้อ หรือภูมิแพ้ ผนังกั้นจมูกคด หรือมีริดสีดวงจมูก ก็จะทำให้เมือกในโพรงไซนัสไม่สามารถระบายเมือกออกมาได้ ทำให้เกิดการสะสมหมักหมมจนกลายเป็นแหล่งอาหารสำหรับเชื้อโรคที่ใช้ในการเจริญเติบโตลุกลามจากโพรงจมูกเข้าไปในโพรงไซนัส ส่งผลให้เยื่อบุไซนัสอักเสบบวม ขนอ่อนในโพรงไซนัสสูญเสียหน้าที่ในการขับเมือก อีกทั้งการสะสมของเมือกก็จะมีมากขึ้นกลายเป็นหนองขังอยู่ในโพรงไซนัส เป็นเหตุให้เกิดอาการของโรคไซนัสอักเสบได้

 

ประเภทของอาการไซนัสอักเสบ 

อาการของไซนัสอักเสบ สามารถแบ่งออกได้เป็นดังนี้ 

  • ชนิดเฉียบพลัน มีอาการน้อยกว่า 30 วัน

  • ชนิดกึ่งเฉียบพลัน มีอาการอยู่ระหว่าง 30 - 90 วัน

  • ชนิดเรื้อรัง มีอาการมากกว่า 90 วัน

 

อาการอักเสบอาจเกิดขึ้นกับไซนัสได้ทุกตำแหน่ง ได้แก่ 

  • ไซนัสข้างตา (Ethmoid sinus)

  • ไซนัสหน้าผาก (Frontal sinus)

  • ไซนัสโหนกแก้ม (Maxillary sinus) เป็นไซนัสประเภทที่พบได้บ่อยที่สุด

  • ไซนัสที่อยู่ใต้ฐานกะโหลกศีรษะ (Sphenoidal sinus)

 

ไซนัสอักเสบ นับเป็นโรคติดต่อหรือไม่ ? 

ไซนัสอักเสบ นั้นไม่ใช่โรคติดต่อ แต่เป็นโรคเฉพาะที่เกิดขึ้นกับบุคคลซึ่งสามารถพบได้ทุกฤดูกาลตลอดทั้งปี โดยเฉพาะในช่วงที่มีอากาศชื้น อีกทั้งยังสามารถพบได้ในคนทุกเพศทุกวัย ประมาณ 3 - 5% ของผู้ป่วยที่มาตรวจที่คลินิกหู คอ จมูก ส่วนใหญ่มักตรวจพบว่าอาการไซนัสอักเสบนั้นเป็นภาวะแทรกซ้อนของโรคหวัด ยิ่งในเด็กยิ่งพบมาก เพราะมีโอกาสเป็นหวัดได้บ่อยกว่าผู้ใหญ่

นอกจากนี้ อาการไซนัสอักเสบที่พบในผู้ป่วยยังพบว่าเป็นภาวะแทรกซ้อนของโรคจมูกอักเสบที่เกิดจากภูมิแพ้ , โรคเยื่อจมูกอักเสบ (Purulent rhinitis), ริดสีดวงจมูก (Nasal Polyps), ผนังกั้นช่องจมูกคด (Deviated nasal septum), รากฟันเป็นหนอง เป็นต้น อีกทั้งผู้ป่วยอาจจะมีประวัติโรคภูมิแพ้ในครอบครัว อาทิ โรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ , โรคหืด , โรคผิวหนัวอักเสบที่เกิดจากภูมิแพ้ (Allergic rhinitis) 

โดยทั่วไปกว่า 0.5% ของผู้ป่วยที่เป็นหวัดจะมีโอกาสเกิดไซนัสอักเสบตามมา ส่วนผู้ที่ป่วยเป็นโรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ (Allergic rhinitis) ก็จะมีอาการไซนัสอักเสบร่วมด้วยประมาณ 40 - 50%

สาเหตุของการเกิดไซนัสอักเสบ

  • ไซนัสอักเสบเฉียบพลัน (Acute sinusitis) สาเหตุนี้มักจะเป็นโรคแทรกซ้อนที่เกิดจากการติดเชื้อของทางเดินหายใจส่วนบนและโรคจมูกอักเสบที่เกิดจากการการภูมิแพ้  ซึ่งเชื้อที่ทำให้ไซนัสอักเสบอาจเกิดจากเชื้อไวรัส อาทิ ไวรัสโรคหวัด , เชื้อแบคทีเรีย , และฮีโมฟีลัส อินฟลูเอ็นซาอี นอกจากนั้นส่วนน้อยก็ยังอาจเกิดจากเชื้อรา อาทิ แอสเปอร์จิลลัส (Aspergillus) ที่หากพบในผู้ป่วยที่เป็นเบาหวาน หรือผู้ป่วยที่เชื้อเอดส์มักทำให้การที่มีอยู่แล้วเกิดอันตรายร้านแรง ส่วนปัจจัยเสี่ยงที่ก่อให้เกิดไซนัสอักเสบเฉียบพลัน ได้แก่
    • โรคหวัดเรื้อรัง ทำให้เยื่อบุจมูกบวม รูเปิดไซนัสอุดตัน ทำให้เกิดการอักเสบของไซนัสได้
    • โรคภูมิแพ้ ในผู้ป่วยที่เป็นโรคภูมิแพ้จะมีอาการคันในจมูก , คัดจมูก , น้ำมูกไหล ทำให้ต้องคอยขยี้จมูกและสั่งน้ำมูกอยู่บ่อยๆ ส่งผลให้เยื่อบุจมูกบวม รูเปิดไซนัสอุดตัน เสี่ยงต่อการเกิดไซนัสอักเสบได้ง่ายขึ้น
    • การติดเชื้อของฟัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งฟันกรามน้อยและฟันกรามด้านบน ซึ่งทั่วไปแล้วพบว่าประมาณ 10% ของการอักเสบของไซนัสที่โหนกแก้มจะมีสาเหตุมาจากฟันผุ เพราะผนังด้านล่างของไซนัสบริเวณนี้จะอยู่ติดกับรากฟัน ในบางรายอาจแสดงอาการชัดเจนภายหลังที่ถอนฟันมาแล้วเกิดรูทะลุระหว่างไซนัสโหนกแก้มและเหงือกขึ้น
    • โรคติดเชื้อต่างๆ เช่น โรคไข้หวัดใหญ่ , โรคไอกรน , โรคหัด
    • เป็นผู้ที่ชอบใช้ยาพ่นจมูกโดยไม่ได้รับคำแนะนำจากแพทย์ เพราะว่ายาพ่นจมูกบางตัวจะทำให้เกิดภาวะติดยาและเยื่อบุจมูกบวมเรื้อรังได้ อีกทั้งยังทำให้ความรู้สึกในการรับกลิ่นลดลงอีกด้วย
    • มีความผิดปกติของโพรงหลังจมูก เช่น เป็นริดสีดวง , เนื้องอกในจมูก , ผนังกั้นช่องจมูกคด หรือมีสิ่งแปลกปลอมเข้าในจมูก
    • การสูบบุหรี่จัด หรือการอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ไม่ดี อาทิ การอยู่ในชุมชนแออัด อาศัยอยู่ในย่านโรงงาน การได้รับมลพิษทางอากาศ หากได้รับสาร หรือกลิ่นเหล่านี้เข้าไปในจำนวนมากๆ เป็นประจำ จะมีผลทำให้ภูมิต้านทานต่อการติดเชื้อลดลง จึงมีความเสี่ยงที่จะเป็นไซนัสอักเสบได้ง่ายขึ้น
    • การว่ายน้ำบ่อยๆ หรือการดำน้ำลึกๆ ซึ่งอาจทำให้เกิดการสำลักน้ำเข้าไปในจมูกและไซนัสได้ อีกทั้งยังอาจมีเชื้อราเข้าไปสะสมจนเป็นเหตุให้เกิดการอักเสบได้ นอกจากนี้ สารคลอรีน (Chlorine) ที่ถูกใช้ในสระว่ายน้ำก็ยังเป็นสารเคมีที่ทำให้เกิดการอักเสบของเยื่อบุไซนัสได้ด้วยเช่นกัน
    • การถูกกระทบกระแทกที่บริเวณใบหน้าอย่างรุนแรง เนื่องจากอาจทำให้โพรงไซนัสโพรงใดโพรงหนึ่งแตกหัก ช้ำบวม หรือมีเลือดออกภายในโพรง เป็นเหตุให้เกิดการอักเสบติดเชื้อตามมาภายหลัง
    • การเปลี่ยนแปลงของความดันอากาศที่เกิดขึ้นรอบตัวแบบทันที อย่างในกรณีของการที่เครื่องบินขึ้น หรือลงจอดแบบทันที หรือจากการดำน้ำลึก หากว่ารูเปิดของไซนัสในขณะนั้นบวมอยู่ในขณะเป็นหวัด หรือโพรงจมูกในช่วงที่กำลังอักเสบจากอาการภูมิแพ้กำเริบ ก็จะส่งผลให้เยื่อบุบวมมากขึ้นได้ อีกทั้งอาจมีการหลั่งสารคัดหลั่ง หรือมีเลือดออก ซึ่งก่อให้เกิดการอักเสบ พบได้โดยมากที่ไซนัสหน้าผาก
  • ไซนัสอักเสบเรื้อรัง (Chronic sinusitis) ส่วนใหญ่จะเกิดจากเชื้อแบคทีเรีย ได้แก่ เชื้อแบคทีเรียที่ไม่พึ่งออกซิเจน (Anaerobic bacteria) , สแตฟีโลค็อกคัส (Staphylococcus) , ฮีโมฟิลัส อินฟลูเอ็นซาอี (Haemophilus influenzae) , เคลบเซลลา นิวโมเนียอี (Klebsiella pneumoniae) , กลุ่มแบคทีเรียแกรมลบ (Gram-negative bacteria) ในบางครั้งก็อาจมีการติดเชื้อหลายชนิดร่วมกัน นอกจากนั้นส่วนน้อยก็อาจเกิดจากเชื้อรา อาทิ แอสเปอร์จิลลัส (Aspergillus) ที่มักทำให้เกิดโรคไซนัสอักเสบเรื้อรัง อันเป็นเหตุมาจากปฏิกิริยาภูมิแพ้ต่อเชื้อรา (Allergic fungal sinusitis) พบได้ในผู้ที่มีภูมิคุ้มกันโรคแข็งแรงเป็นปกติ โดยโรคไซนัสอักเสบเรื้อรังนี้มักพบว่าเป็นภาวะแทรกซ้อมจากไซนัสอักเสบเฉียบพลันที่ไม่ได้ถูกรักษาอย่างถูกต้อง รวมถึงยังพบปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ อีก ได้แก่
    • การไม่รับการรักษาที่ถูกต้องเพียงพอในขณะที่ป่วยเป็นไซนัสอักเสบเฉียบพลันอย่างที่ควรจะเป็น ซึ่งอาจเกิดจากผู้ป่วยเองที่ขาดการรักษาจากแพทย์อย่างต่อเนื่อง
    • การติดเชื้อของทางเดินหายใจส่วนบนซ้ำซาก
    • การอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ไม่ดี เช่น การอยู่ในชุมชนแออัด , การอยู่ในย่านโรงงาน , การได้รับมลพิษทางอากาศ ควันบุหรี่ รวมถึงการสูบบุหรี่จัด
    • การมีโรค หรือภาวะที่ทำให้มีการอุดตันของรูเปิดของไซนัส
    • การมีโรค หรือภาวะที่ทำให้ขนอ่อน (Cilia) ที่คอยโบกพัดเพื่อระบายสิ่งคัดหลั่งออกข้างนอกเสียไป ทำให้เกิดการสะสมของสิ่งคัดหลั่งในไซนัส ก่อนให้เกิดการอักเสบติดเชื้อได้ อย่างในกรณีที่เป็นภาวะหลังเป็นโรคหวัด
    • เกิดโรคกรดไหลย้อนขึ้นที่คอและกล่องเสียง (Laryngopharyngeal reflux – LPR)
    • เป็นโรคทางทันตกรรมเรื้อรัง
    • มีภาวะภูมิคุ้มกันต่ำ หรือลดลง เช่น ผู้ป่วยเอดส์ , เบาหวาน , ปลูกถ่ายอวัยวะ , ผู้มีภาวะโลหิตจาง , ขาดสารอาหาร , มีอารมณ์แปรปรวน , มีความเครียดสูง
    • มีปัจจัยเกี่ยวกับโรคภูมิแพ้ที่ส่งผลให้เกิดการบวมของเยื่อบุจมูก เยื่อบุไซนัส และรูเปิดไซนัสบวม ทำให้มีสิ่งคัดหลั่งสะสมอยู่ในไซนัส ก่อให้เกิดการติดเชื้อ
 

ใครบ้างที่โอกาสเสี่ยงป่วยเป็น ‘ไซนัสอักเสบ’ ได้

ในความเป็นจริงแล้วใครๆ ก็สามารถที่จะเป็น ‘ไซนัสอักเสบ’ ได้ แม้แต่เด็กแรกเกิดที่มีโพรงอากาศ หรือไซนัสขนาดเล็กก็ตาม แต่ก็มีคนอยู่หลายกลุ่มที่เสี่ยงเป็นโรคไซนัสอักเสบได้ง่ายกว่าคนทั่วๆ ไปอยู่ ดังนี้ …

  • ผู้ที่ป่วยเป็นโรคภูมิแพ้ทางจมูก : เมื่อเกิดอาการแพ้ก็จะมีลักษณอาการคล้ายกับคนเป็นหวัด เยื่อบุจมูกจะมีอาการบวม รูเปิดไซนัสจะตีบตัน ทำให้เกิดการอักเสบภายในไซนัสได้
  • ผู้ที่มีความผิดปกติของช่องจมูก : ยกตัวอย่าง ผู้ที่มีผนังกั้นระหว่างช่องจมูกคด ทำให้ช่องจมูกนั้นมีความกว้างเล็กกว่าปกติจนทำให้เกิดอาการแน่นและคัดจมูก อีกทั้งยังเป็นการขัดขวางการไหลเวียนของน้ำมูกตามปกติที่จะไหลไปมางด้านหลัง ทำให้มีความเสี่ยงที่จะเกิดการอักเสบและติดเชื้อได้ง่ายขึ้น
  • ผู้ที่สุบบุหรี่และผู้ที่อยู่ในเขตที่มีมลภาวะเป็นพิษ : การทำพฤติกรรมดังกล่าว หรือการอยู่ในพื้นที่ดังกล่าวจะทำให้ภูมิต้านทานต่อการติดเชื้อลดลงได้ จึงทำให้มีโอกาสที่จะเป็นไซนัสอักเสบได้ง่ายขึ้น

สระว่ายน้ำที่มีการใส่สารคลอรีนเพื่อฆ่าเชื้อโรค : การว่ายน้ำในสระน้ำที่มีคลอรีน หรือถูกทำการฆ่าเชื้อด้วยโอโซนก็ทำให้มีความเสี่ยงที่จะเป็นไซนัสอักเสบขึ้นได้ เพราะเราอยู่ในสภาวะเช่นนั้นเป็นเวลานานก็จะทำให้เกิดการระคายเคืองของเยื่อบุได้
ลักษณะอาการเมื่อเป็นไซนัสอักเสบ 

ไซนัสอักเสบเฉียบพลัน 

ในผู้ใหญ่มักมีอาการปวดที่บริเวณใบหน้าเมื่อเกิดการอักเสบ เช่น ปวดที่บริเวณหัวตา , หน้าผาก โหนกแก้ม , รอบๆ กระบอกตา , หลังกระบอกตา ในบางรายอาจรู้สึกคล้ายกับปวดฟันตรงซี่บน ซึ่งอาจปวดเพียงข้างเดียว หรือปวดทั้งสองข้าง โดยอาการปวดจะเป็นแบบตื้อๆ หรือหน่วงๆ ในบางครั้งจะมีอาการมึนศีรษะร่วมกับการปวด อีกทั้งอาการปวดมักจะเกิดขึ้นในตอนเช้า หรือบ่ายเวลาที่ก้มศีรษะ หรือเปลี่ยนท่า 

ผู้ป่วยที่มีเป็นไซนัสเฉียบพลันจะมีอาการคัดแน่นจมูกอยู่ตลอดเวลา พูดเสียงขึ้นจมูก มีน้ำมูกเป็นหนองออกข้นเหลือง หรือเขียว หรืออาจมีเสมหะข้นเหลือง หรือเขียวไหลจากด้านหลังจมูกลงในคอ ทำให้ต้องคอยสูด หรือขากออก ในบางรายอาจมีไข้สูงจนหนาวสั่น ซึ่งในขณะที่มีไข้นั้นก็จะมีอาการปวดศีรษะและปวดบริเวณใบหน้าร่วมด้วย รวมถึงยังมีอาการอ่อนเพลีย ไอเรื้อรังเป็นเวลานาน เจ็บคอ ระคายคอ เสียแหบ ปวดหู หูอื้อ หายใจมีกลิ่นเหม็น อีกทั้งความรู้สึกในการรับรู้กลิ่น หรือลดชาติก็ลดลงไปด้วย

 

ผู้ป่วยไซนัสเรื้องรังที่เป็นเด็ก

ในป่วยเด็กที่มีอาการไซนัสเรื้อรังนั้นมักมีอาการที่ไม่ชัดเจนเท่าผู้ใหญ่ แต่เมื่อเป็นหวัดก็มักมีระยะเวลานานกว่าปกติกว่าจะหาย ยกตัวอย่าง เมื่อเป็นหวัดทำให้มีน้ำมูก แต่น้ำนั้นอาจใส หรือข้นเป็นหนอง มีอาการไอติดต่อกันนานกว่า 10 วัน ซึ่งมักจะไอในช่วงกลางวันและกลางคืน รวมถึงมีไขต่ำและหายใจมีกลิ่นเหม็นร่วมด้วย ในเด็กบางราย อาจแสดงอาการเป็นหวัดที่รุนแรงกว่าปกติ เช่น มีไข้สูงกว่า 39 องศาเซลเซียส มีน้ำมูกข้นเป็นหนอง มีอาการปวดที่บริเวณใบหน้า หลังตื่นนอนก็จะสังเกตเห็นได้ว่าจะมีอาการบวมรอบๆ ดวงตา นอกจากนี้ ในเด็กที่มีอาการของหูอักเสบเรื้อรังและหอบหืด ก็ควรนึกถึงว่าอาจมีความเสียงที่จะเป็นไซนัสอักเสบเผื่อไว้ด้วย อีกทั้งในเด็กบางรายที่ป่วยเป็นไซนัสอักเสบเฉียบพลันจะมีอาการกำเริบมากกว่าปีละ 6 ครั้ง แต่ละครั้งจะนานกว่า 10 วัน 

 

ไซนัสอักเสบเรื้อรัง 

ผู้ป่วยที่มีอาการไซนัสอักเสบเรื้อรังมักมีอาการต่อเนื่องทุกวันนานเกิน 90 วัน ผู้ป่วยที่เป็นผู้ใหญ่ มักจะมีอาการคัดแน่นจมูก มีเสมหะข้นเหลือง หรือเขียวไหลจากด้านหลังจมูกลงในคอ เมื่อหายใจก็จะมีกลิ่นเหม็น มีความรู้สึกในการรับรู้กลิ่น หรือรสชาติลดลง แต่ส่วนใหญ่จะไม่มีไข้แบบที่พบในไซนัสอักเสบเฉียบพลัน 

ผู้ป่วยไซนัสอักเสบเรื้อรังที่เป็นเด็กมักมีอาการไอ จาม น้ำมูกไหล เมื่อหายใจจะมีกลิ่นเหม็น มีโรคติดเชื้อของทางเดินหายใจส่วนบน หรือหูชั้นกลางอักเสบซ้ำซาก

 

วิธีป้องกันไซนัสอักเสบ 

เพื่อลดโอกาสที่จะเกิดอาการไซนัสอักเสบ หรือลดอาการรุนแรงที่เกิดขึ้น ควรจะปฏิบัติตามคำแนะนำดังต่อไปนี้ 

    1. รักษาสุขภาพให้แข็งแรงอยู่เสมอ ขั้นแรกให้ออกกำลังกายเป็นประจำแบบไม่ต้องหักโหม เพื่อเป็นการเสริมสร้างให้ร่างกายมีภูมิคุ้มกันโรค ต่อมาให้พักให้เพียงพอ อย่าอดนอน หรือนอนดึกบ่อยๆ เพราะหากร่างกายอ่อนแอก็จะมีโอกาสติดเชื้อต่างๆ ได้ง่าย และสุดท้าย รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ทุกวัน โดยให้ลด หรือหลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์และการสูบบุหรี่ด้วย

    2. ให้หลีกเลี่ยงสภาพแวดล้อมที่เป็นพิษ อย่าง มลพิษทางอากาศ ควันบุหรี่ และกลิ่นที่ผิดปกติ โดยแนะนำให้อยู่ในสถานที่ที่อากาศถ่ายเทสะดวก ไม่มีฝุ่นละออง ไม่มีเกสรดอกไม้ที่ก่อให้เกิดอาการแพ้

    3. หลีกเลี่ยงการว่ายน้ำ ดำน้ำ หรือกระโดดน้ำ เมื่อมีอาการคล้ายกับหวัดกำเริบ

    4. หลีกเลี่ยงภาวะที่อุณหภูมิมีการแปรเปลี่ยนฉับพลัน อาทิ การเข้าๆ ออกๆ ห้องปรับอากาศ หรือการอยู่ในรถยนต์ที่ตากแดดร้อนๆ เป็นเวลานานๆ เป็นต้น

    5. ไม่ควรใช้ยาพ่นจมูกโดยที่ไม่ได้รับคำปรึกษาจากแพทย์

    6. ควรเดินทางไปรับการตรวจโพรงจมูก จาก แพทย์เฉพาะทางหู คอ จมูก ปีละครั้ง

    7. พยายามดูแลตัวเองไม่ให้เป็นหวัด เพราะหากเราเป็นหวัดก็สามารถทำให้เป็นไซนัสอักเสบได้

    8. การป้องกันไซนัสไม่ให้เกิดขึ้นซ้ำอีก สามารถทำได้โดยพยายามแก้ไขและป้องกันไม่ให้มีปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดการอักเสบขึ้นมาซ้ำได้อีก เช่น การรักษาสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง และหากมีการติดเชื้อของระบบทางเดินหายใจส่วนบน ไม่ว่าจะเป็น โรคหวัด โรคคออักเสบ หรือฟันผุ จะต้องรีบรักษาให้หายโดยเร็ว แต่ถ้าหากเป็นโรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ ริดสีดวงจมูก ผนังกั้นช่องจมูกคด เหล่านี้ก็ต้องได้รับการรักษาอย่างต่อเนื่องและเหมาะสม
    9. สำหรับผู้ที่เป็นหวัด มีน้ำมูก หรือมีเสมหะในคอในลักษณะข้นเหลือง หรือเขียว เป็นหวัดต่อเนื่องติดต่อกันนานกว่าปกติ (นานเกิน 10 วัน) หรือเป็นๆ หายๆ เรื้อรัง แนะนำว่าควรจะไปปรึกษาแพทย์ เพราะอาจจะเป็นผลที่เกิดจากไซนัสอักเสบ

 

 

 

ใครจะคิดว่าอาการปวดที่เกิดขึ้นกับร่างกายของเรา โดยเฉพาะบริเวณศีรษะ หรือใบหน้านั้นจะมีผลมาจากการที่เราไม่สบาย หรือเกิดความเครียดเพียงเท่านั้น แต่ยังเป็นอาการที่บอกถึงความไม่แข็งแรงและการมีภูมิคุ้มกันร่างกายที่ต่ำกว่าปกติ ฉะนั้น เราจึงควรหันมาเริ่มต้นออกกำลังกาย รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ รวมถึงดูแลตัวเองให้ดีในทุกๆ ด้าน เราจะได้เอาเวลาที่มีอยู่ไปทำสิ่งต่างๆ ที่มีประโยชน์ หรือสิ่งที่เราอยากทำ ไม่ต้องเสียเวลาไปกับการเข้าโรงพยาบาล หรือรักษาอาการไซนัสให้เปลืองเวลา เพราะชีวิตเรายังต้องอยู่เพื่อตัวเองและเพื่อคนอื่นๆ ไปอีกนาน

อ่านเพิ่มเติมได้ที่ https://www.sanook.com/health/7309/https://www.sanook.com/health/7309/

แห่ขอเลขเด็ดคึก ขุดพบกระดูก-เครื่องปั้นดินเผา คล้ายยุคมนุษย์โบราณ

แห่ขอเลขเด็ดคึก ขุดพบกระดูก-เครื่องปั้นดินเผา คล้ายยุคมนุษย์โบราณ

แห่ขอเลขเด็ดคึก ขุดพบกระดูก-เครื่องปั้นดินเผา คล้ายยุคมนุษย์โบราณ

77kaoded

สนับสนุนเนื้อหา

เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 15 มี.ค.61 ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันใกล้วันออกสลากกินแบ่งของรัฐบาลในวันที่ 16 มี.ค.นี้ ได้มีชาวบ้านหนองหญ้าขาว หมู่ 8 ต.ช่องสามหมอ อ.คอนสวรรค์ จ.ชัยภูมิ พากันแตกตื่นว่า มีคนขุดพบจุดคล้ายหลุมศพและซากกระดูกของมนุษย์โบราณ ที่ขุดพบได้ในพื้นที่กำลังก่อสร้างรั้วบริเวณทางเข้าหน้าบ้านของชาวบ้านรายหนึ่ง ในตำบลช่องสามหมอ และคาดว่าน่าจะมีอายุกระดูก หม้อไหเครื่องปั้นดินเผาแบบโบราณ ขุดพบในครั้งนี้มีอายุเก่าแก่มานานแล้วไม่น้อยกว่าหลายร้อยปี

ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปตรวจสอบ ในจุดดังกล่าว ที่ชาวบ้านพบว่าภายในหลุมที่ขุดลึกลงไปลึกไม่น้อยกว่า 1.5 เมตร ปากหลุมกว้างกว่า 2 เมตร ที่ชาวบ้านขุดลึกลงไปเป็นโพรงขนาดใหญ่  ซึ่งพบว่ายังมีมีโครงกระดูกมนุษย์โบราณในสภาพ นอนเหยียดขา แขนซ้ายยกขึ้นมีเครื่องประดับคล้ายกำไลเงินสวมอยู่ หันหัวไปทางทิศตะวันตก รอบๆ มีเศษภาชนะโบราณและซากฟันกราม ที่หลงเหลืออยู่จำนวนหนึ่ง

ทางชาวบ้านที่ทราบข่าวต่างพากันมุ่งเดินทางมาจุดดังกล่าว เพื่อนำธูปเทียนเครื่องบูชามาขอกราบไหว้ขอพรขอโชคลาภในช่วงวันใกล้สลากกินแบ่งรัฐบาลออกในวันที่ 16 นี้กันต่อเนื่องไม่ขาดสายเป็นจำนวนมาก ตามความเชื่อของแต่ละบุคคล

ที่จุดพบเครื่องปั้นดินเผาและซากกระดูกมนุษย์โบราณ เป็นที่ดินของนางพิมพา อายุ  59 ปี ที่ตั้งอยู่ หมู่ 8 บ้านหนองหญ้าขาว ตำบลช่องสามหมอ อำเภอคอนสวรรค์ จังหวัดชัยภูมิ ซึ่งเจ้าของบ้านที่รายนี้ กล่าวว่า ขณะที่ตนเองกำลังได้ว่าจ้างคนงานมาทำรั้วบ้านและกำแพงบ้าน ขณะที่ช่างกำลังขุดหลุมลึกลงไปประมาณ 1 เมตรเศษๆ เพื่อที่จะฝังเสาปูนบริเวณหน้าบ้าน

จู่ๆ ก็พบหัวกะโหลกมนุษย์โผล่ขึ้นมาเมื่อนำเศษดินออกก็พบว่าเป็นโครงกระดูกคนขนาดใหญ่กว่าปกติคล้ายมนุษย์โบราณ พร้อมด้วยมีเครื่องประดับเป็นกำไลเงินและเครื่องปั้นดินเผาอยู่โดยรอบ ซึ่งนางพิมพา ยังกล่าวต่อว่า

ครั้งนี้ก็เชื่อว่า มีวิญญาณสิ่งศักดิ์สิทธิ์หรือสิ่งเร้นลับ มาดลจิตใจให้ตนเองมาขุดหลุมทำรั้วบ้านใหม่ในครั้งนี้ขึ้น ที่อยู่ดีๆ ก็คิดอยากจะทำรั้วใหม่ขึ้นมา ทั้งที่ตั้งใจที่จะหาช่างมาทำนานแล้ว แต่ครั้งนี้ก็มาฝันแปลกๆ บ่อยครั้งและก็คิดจะทำขึ้นมาทันที เพื่อให้ช่วยนำซากกระดูกศพขึ้นมาบำเพ็ญกุศล จะได้ไปเกิดใหม่ เพราะก่อนหน้านั้นเคยฝันเห็นคนตัวใหญ่คล้ายๆ คนโบราณมาหลายครั้งแล้ว

หลังข่าวการขุดพบเจอโครงกระดูกและเครื่องปั้นดินเผาพร้อมด้วยกำไลโบราณ แพร่สะพัดออกไป  ชาวบ้านที่ทราบข่าว โดยเฉพาะคอหวยนักเสี่ยงโชคต่างพากันแตกตื่นแห่มามุงดูทั้งหมู่บ้าน เพราะไม่เคยพบเห็นโครงกระดูกในลักษณะนี้มาก่อนเช่นกัน

รวมทั้งยังมีการพาร่างทรงมาทำพิธีเข้าทรง และชาวบ้านต่างนำดอกไม้ธูปเทียนมากราบไหว้ซึ่งชาวบ้านเชื่อว่าเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ในพื้นที่ดังกล่าวมานาน และเพื่อเป็นสิริมงคลต่อตนเองจึงนำดอกไม้ธูปเทียนมากราบไหว้ขอพรกันต่อเนื่องในครั้งนี้ตามความเชื่อของแต่ละบุคคล

ด้าน นายประหยัด อนันต์เต่า กำนันตำบลช่องสามหมอ กล่าวว่า ตนเองได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองและกรมศิลปากรทราบในเบื้องต้นแล้ว เพื่อจะได้จัดทีมมาสำรวจหาร่องรอยหลักฐานทางโบราณคดีที่ชัดเจนอีกครั้ง ว่าสิ่งที่พบเป็นโครงกระดูกเครื่องปั้นดินเผามีอายุเก่าแก่มากเท่าใด หรือไม่ เพื่อความชัดเจนที่แท้จริงต่อไป

ซึ่งเบื้องต้นในช่วงนี้ก็ต้องขอให้เจ้าที่หน้าที่ เข้ามากันพื้นที่ไม่ให้ชาวบ้านเข้าไปรุมล้อมหรือเข้าใกล้หลุมดังกล่าวมากเกินไป เพื่อป้องกันการแตกพังเสียหายที่อาจจะเป็นการค้นพบสิ่งที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์บ้านเมืองชัยภูมิเราที่สำคัญขึ้นอีกแห่งก็เป็นได้

ในส่วนด้านเจ้าของที่ดินเองก็อยากขอเพียงว่าการขุดพบครั้งนี้ อยากจะนำโครงกระดูกที่พบไปทำการฌาปนกิจที่วัดในหมู่บ้าน เพื่อความเป็นสิริมงคลของที่อยู่อาศัยตนเองในปัจจุบันเท่านั้นต่อไป

ตรวจสลากกินแบ่งรัฐบาล เพิ่มเติมได้ที่ https://news.sanook.com/5698634/

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล

ทำความรู้จัก iPhone X (Edition) ไอโฟนรุ่นพิเศษ ฉลองครบรอบ 10 ปี

iPhone X (Edition) ถือเป็นอีกรุ่นที่หลายคนกำลังเฝ้าจับตามองอยู่ในตอนนี้ นอกจากการมาของ iPhone รุ่นใหม่อย่าง iPhone 8 และ iPhone 8 Plus ที่มีกำหนดการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในคืนพรุ่งนี้ 

หากมันมีจริงๆ  (Edition) ก็คือรุ่นฉลองครบรอบ 10 ปีของการเกิด iPhone บนโลกใบนี้ครับ และแน่ๆ ว่ามันคงเป็นพี่ใหญ่สุดของงาน เพราะตามกระแสข่าวลือคือ iPhone X จะมาพร้อมกับขนาดหน้าจอ OLED 5.8 นิ้ว แต่จะไม่มีระบบสแกนลายนิ้วมือด้านหน้าอีกต่อไป แต่ใช้ระบบสแกนใบหน้าแทน และการแสดงผลจะขึ้นไปบนสุดของหน้าจอด้วยกัน ส่วนการเรียก Siri เขาจะใช้ปุ่ม Power แทน

 untitled-20

นอกจากนี้ในเรื่องของสเปคนั้นคาดว่าจะใช้ CPU Apple A11 คาดว่าอาจจะให้ RAM 3GB เท่านั้น ในเรื่องของกล้องนั้นคาดว่าจะมีความคล้ายกับรุ่นเดิม คาดว่าเพิ่มเรื่องของระบบ 3D เข้ามาอีกด้วย 

 

แต่อย่างไรก็ดียังไม่มีการออกมายืนยันอย่างเป็นทางการจากฝ่ายไหนชัดว่าในวันที่ 12 กันยายน 2017 นี้เราจะได้เห็น ไอโฟนรุ่นใหม่ทั้งหมดกี่รุ่นกันแน่ๆ มันจะมาครบทั้ง iPhone 8, iPhone 8 Plus และ iPhone X หรือไม่? ส่วนเรื่องราคาของไอโฟรรุ่นใหม่คาดว่า  (หรือ iPhone X, iPhone Edition) อาจมีราคาสูงถึง 999 เหรียญ หรือประมาณ 33,100 บาท (64 GB), 1,099 เหรียญ หรือประมาณ 36,400 บาท (256 GB) และ 1,199 เหรียญ หรือประมาณ 39,700 บาท (512 GB) อ่านสื่อนอกวิเคราะห์ได้ที่ (สื่อนอกชี้ iPhone ใหม่ทั้ง 3 รุ่น จะเริ่มเปิดให้จอง 15 กันยายน 2017 นี้)

เอาเป็นว่าเรามารออัปเดทไปพร้อมๆ กันในค่ำคืนพรุ่งนี้กันดีกว่าครับ 

ดูรูปไอโฟน 8 เพิ่มเติมได้ที่ http://hitech.sanook.com/1433925/

ดวงสมพงษ์ของชาว ราศีเมษ กับ ราศีสิงห์ โดยอาจารย์ธนกร

ชาวราศีเมษ (ระหว่างวันที่ 22 มี.ค. ถึง 21 เม.ย.)

เป็นคนที่มีลักษณะนิสัยเป็นคนพูดตรงมาตรงไป ทำอะไรมักมีเป้าหมายเป็นคนที่ชอบเดินทางท่องเที่ยว เป็นคนขยันชอบการปฏิบัติ เป็นคนที่มีความสร้างสรรค์ขยันอดทน รักความอิสระมั่นใจตนเองชอบความเด่นดัง อาชีพที่เหมาะกับชาวราศีเมษเป็นอาชีพที่ต้องอาศัยการปฎิบัติเพราะเป็นคนขยันเหมาะในอาชีพที่จะแตะเดินทางบ่อยๆเช่นมัคคุเทศก์ อาชีพเซลล์ นักถ่ายทำสารคดี นักบิน ทางด้านความรักมีความโรแมนติกชอบความเป็นส่วนตัวอยู่บ้างแต่ถ้าหากพบคู่ของเจ้าชะตาแล้ว ก็อยากให้เพื่อนญาติหรือสังคมได้รับรู้ว่าเจ้าชะตาได้พบคู่พบกับคนที่ถูกใจแล้ว

 

ชาวราศีสิงห์ (ระหว่างวันที่ 22 ก.ค. ถึง 21 ส.ค.)

ชาวราศีสิงห์เป็นคนแถวเชื่อมั่นแห่งตนเองสูงชอบสรรพสิ่งสวยงามภูมิฐานมีความทะเยอทะยานสูงชอบทำตัวให้คนเคารพนับถือ ชอบการได้เกียรติยศและชื่อเสียง ชอบความเป็นผู้นำของตนมีความคิดสร้างสรรค์มากมีจินตนาการที่ดี ดำรงฐานะคนที่มีบุคลิกที่มีความดูน่าเชื่อถือมีบารมีอำนาจเป็นคนเปิดเผยและชอบความเสรีเจ้าสำราญพอสมควร ชอบการเข้าสังคมชอบงานบันเทิงเริงรมย์ มักจะคบหากับบริวารหรือเพื่อนใหม่ๆเพื่อในงานพบเจอไปการเข้าสังคมเสมอชอบใช้จ่ายเงินที่การทำธุรกิจ

 

ความเข้ากันสรรพสิ่งทั้งสองราศี 70 % ทั้งนี้เป็นอิทธิพลที่ส่งผลถึงกันระหว่างราศีแบบ ทั้งมวลกว้างๆ ยังอาจจะขึ้นกับบุคคลทั้งสองมนุชด้วย

 

การผูกดวงสมพงศ์ระหว่างชาวราศีเมษกับชาวราศีสิงห์

ความสมพงศ์ระหว่างคู่รักชาวราศีเมษกับชาวราศีสิงห์ความสมพงศ์ระหว่างราศีทั้งสองนี้คงไว้ในเกณฑ์ที่ดีแต่ต้องปรับทัศนคติด้วยกันการคบเฟ้นหากันต้องปรับตัวเพื่อที่จะสร้างความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันได้มากขึ้น โดยลักษณะชาวราศีเมษจะเก่งในทางเป็นนักปฎิบัติและมีความสามารถในการเจรจาจึงสามารถ คลุกคลีกันสร้างฐานะให้มีความมั่นคงได้อย่างไม่อยาก ส่งผลให้คนรักชาวราศีสิงห์มีความสบายไปด้วยและทรัพย์สินที่ช่วยกันหามาด้วยกันและควรจะนำไปซื้อบ้านเป็นแบบสไตล์วินเทจ จะทำให้เกิดข้อความมั่นคงและร่ำรวย สถานที่ท่องเที่ยวที่ควรพากันเดินทางไปท่องเที่ยวร่วมกันคือ การท่องเที่ยวการตั้งแคมป์ การผจญภัยการเดินป่า เที่ยวน้ำตก อัญมณีที่จะส่งผลในการช่วยเสริมโชคในเรื่องการสร้างความสัมพันธ์ด้านความรักที่ดีระหว่างกันก็เป็น ทับทิม

ตรวจสอบ ดวงสมพงษ์ http://horoscope.sanook.com/play/lovematching/

สื่อดังยืนยันอีกเสียง iPhone 8 จะไม่มี Touch ID แน่นอน

สื่อดังยืนยันอีกเสียง iPhone 8 จะไม่มี Touch ID แน่นอน

สื่อดังยืนยันอีกเสียง iPhone 8 จะไม่มี Touch ID แน่นอน

แบไต๋

สนับสนุนเนื้อหา

อย่างที่เป็นข่าวมาก่อนหน้านี้ว่า Apple ไม่สามาถรพัฒนาตัวสแกนลายนิ้วมือลงในหน้าจอได้ทัน จึงมีความเป็นไปได้ว่าฟีเจอร์ดังกล่าวจะถูกัดออก ล่าสุด The Wall Street Journal รายงานเพิ่มเติมว่าเราจะไม่เห็น Touch ID ใน iPhone 8 ที่กำลังจะเปิดตัวสัปดาห์นี้แน่นอน

ข่าวลือที่ Apple จะตัด Touch ID ที่เริ่มเป็นที่นิยมมาตั้งแต่ปี 2013 ออกจาก iPhone รุ่นใหม่นี้นั้นก็มีออกมาหลายเดือนแล้ว Bloomberg กล่าวเอาวไว้ตั้งแต่เดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาว่า Apple กำลังจะแทนที่ Touch ID ด้วยตัววิเคราะห์ใบหน้าใน  และหลังจากนั้นก็มีข้อมูลการวิเคราะห์ออกมาจากหลายๆ แหล่งข่าวพูดในแนวทางเดียวกันนี้

WSJ กล่าวว่า Apple กำลังจะเป็นผู้ริเริ่มในการฝัง Touch ID ลงบนหน้าจอ iPhone และเนื่องด้วยปัญหาหลายๆ อย่าง ประกอบกับที่ iPhone 8 จะใช้หน้าจอแบบ OLED Apple จึงเลือกที่จะตัด Touch ID ออกไป และแทนที่ด้วยตัววิเคราะห์ใบหน้าแทน

ทั้งนี้ก็มีความเป็นไปได้สูงว่าหลังจากที่ iPhone 8 เริ่มวางขายแล้ว ของจะขาดตลาด และเกิดการส่งมอบล่าช้า ซึ่งก็ไม่เป็นเรื่องที่น่าแปลกใจเท่าไหร่นัก แต่เชื่อว่าปัญหานี้จะเกิดกับ iPhone 8 สีใหม่เป็นสีแรก และก็จะค่อยๆ ลามไปทุกสีที่วางขายครับ

อ่านเพิ่มเติมได้ที่ >>> http://hitech.sanook.com/1433825/

 

รีวิวกากกาแฟขัดผิว ตัวช่วยให้ผิวเนียน นุ่ม ได้ผลจริง

รีวิวกากกาแฟขัดผิว ตัวช่วยให้ผิวเนียน นุ่ม ได้ผลจริง

รีวิวกากกาแฟขัดผิว ตัวช่วยให้ผิวเนียน นุ่ม ได้ผลจริง

ฮัลโหลสาวๆ วันนี้เกรดดี้จะมา รีวิวกากกาแฟขัดผิว ที่หลายคนอาจจะมองว่า กากกาแฟเนี่ยนะ จะมาขัดตัวได้หรอ! ที่ผ่านมาเราจะได้ยินบ่อยๆ ว่ากากกาแฟ ลุ้นปลูกต้นไม้ ผสมดิน ผสมปุ๋ยเพื่อให้ต้นไม้งอกงาม แต่ถ้าใครได้ลองใช้สูตรนี้แล้วล่ะก็ จะต้องร้องว้าว กับผิวที่เนียน นุ่ม ขึ้นได้อย่างเป็นธรรมชาติ แจ๊ดถ้าเป็นขาชอบกลิ่นกาแฟอยู่แล้วจะยิ่งฟินเลยค่ะ

แต่ก่อนที่เราจะมาดูสูตรเนรมิตผิวสวยกันนั้น เรามารู้กันก่อนดีกว่าว่า การขัดผิวให้ประโยชน์อย่างไร

การขัดผิว จะช่วยให้ผิวของคุณดูชุ่มชื้น กระจ่างใสเช่นเป็นธรรมชาติ แต่! การขัดผิวไม่ได้ช่วยให้ผิวขาวขึ้นได้ในพริบตา การออกแรงมากจะยิ่งทำให้ผิวอ่อนแอ เกิดข้อความแห้งกร้าน เป็นรอยแดง และเป็นสาเหตุให้สิ่งแปลกปลอมเข้าเสด็จพระราชดำเนินในผิวของเราได้ง่ายขึ้น เพราะฉะนั้นแล้วควรขัดอย่างเบามือและไม่ควรขัดบ่อยจนเกินไป ควรขัดสัปดาห์ละไม่กิน 2 ครั้ง และไม่ควรทำติดกันอาจจะเว้น 3-4 วัน หรือทำสัปดาห์ละ 1 ครั้ง จะเหมาะสมที่สุด

ส่วนการเลือกชำระคืน กากกาแฟ ควรจะต้องมีชีวิตกากกาแฟอย่างเดียว บางร้านเค้าจะใช้เครื่องบดเครื่องเดียวกัน ทำให้กากกาแฟกับกากชารวมกัน ควรหาร้านที่มีเครื่องแยกทั้งสองอย่าง แต่ถ้าเป็นร้านกาแฟชั้นนำไม่จำเป็นต้องห่วงเค้าแยกอยู่แล้วจ้า

สิ่งสำคัญอีกอย่างก็คือ งานเก็บรักษากากกาแฟ เนื่องขนมจากความชื้นที่อยู่ณกากกาแฟนั้นมีมาก ควรตากให้แห้งจนมั่นใจว่าแห้งสนิทแล้วใส่กระปุกไว้ค่ะ

เมื่อรู้อย่างนี้แล้ว ถึงเวลาที่ Sanook! Women จะพาคุณสาวๆ ไปดูขั้นตอนการ ขัดผิวด้วยกากกาแฟ กันจัดหามาเลย

 

สิ่งที่ต้องมี

1. กากกาแฟบด

2. นมสด 

3. น้ำผึ้ง

 

ขั้นตอนแรก นำกากกาแฟบดมาใส่ในปริมาณที่พอเหมาะ ใครที่ชอบทาพอกตัวหนา อาจจะต้องใส่เยอะสักนิดนะคะ

 

ขั้นตอนที่สอง นำนมสดมาผสมลงไป กากกาแฟที่แข็งจะนิ่มลง แต่อย่าใส่เยอะจนเกินไปนะคะ ไม่อย่างนั้นเนื้อจะดูเหลวไม่ติดผิว

 

 

ใส่น้ำผึ้งลงไปอีกนิด 

 

เมื่อคนส่วนผสมทุกอย่างให้เข้ากันแล้วมาถึงขั้นตอนการขัดตัวกันเลยค่ะ

 

นำกากกาแฟที่ผสมไว้มาขัดวนค่อยๆ ให้ทั่วตัว ทิ้งไว้ประมาณ 10-15 นาที ล้างออกตามปกติ วิธีนี้เกรดดี้ยังมิเคยลองกับผิวหน้า เท่านั้นถ้าคุณเป็นสาวหน้าแห้งที่ต้องการเพิ่มความชุ่มชื้นจัดได้เลย แต่อย่าลืมทดสอบที่ใต้ท้องแขนหรือว่าผิวข้างแก้มก่อนว่าคุณแพ้กากกาแฟไม่ก็เปล่า

แค่นี้ก็เสร็จเรียบร้อยแล้วนะคะ สำหรับการทำสวยให้ผิวเนียนนุ่มอย่างปลอดภัย ไม่ต้องเสี่ยงอันตรายไปฉีดผิวหรือกินกลูต้าสละให้ขาวเวอร์ ก็พินิจดีได้จบค่ะ

ดูเพิ่มเติมได้ที่ http://women.sanook.com/39259/

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ผู้หญิงอยากรู้

ยารักษาสิวจากธรรมชาติ ตัวช่วยลดเลือนรอยดำจากสิวได้ผล

ยารักษาสิวจากธรรมชาติ ตัวช่วยลดเลือนรอยดำจากสิวได้ผล

ยารักษาสิวจากธรรมชาติ ตัวช่วยลดเลือนรอยดำจากสิวได้ผล

ปัญหาผิวหน้าของสาวๆ ส่วนใหญ่ก็คือ การมีสิวขึ้นหน้า และเมื่อสิวหายไปแล้ว หลังจากมันตกสะเก็ดมันก็มักทิ้งรอยสิวดำๆ เอาไว้ให้สาวๆ เรากลุ้มใจตามเสมอ ด้วยเหตุนี้ เราจึงไม่ควรละเลยการรักษารอยสิวให้จางลงโดยเร็ว ว่าแต่จะมีวิธีไหนกันบ้างหรือไม่นะที่จะสามารถรักษารอยสิวให้จางลงได้อย่างเป็นธรรมชาติ

หากคุณเป็นอีกคนหนึ่งที่กำลังประสบกับปัญหารอยสิว และหากกำลังมองหา วิธีลดเลือนรอยสิวในแบบธรรมชาติ ตามมาดูกับวัตถุดิบเหล่านี้ที่มีสรรพคุณเป็นดั่งยารักษารอยสิวกันสิคะ รับรองค่ะว่ารอยสิวจะต้องจางลงแบบไม่ต้องควักตังค์ซื้อยารักษารอยสิวกันเลย แถมยังทำให้ผิวหน้าแลดูกระจ่างใสตามได้อีกด้วย มาดูกันเลยค่ะว่ามีอะไรบ้าง

ยารักษาสิวจากธรรมชาติ ตัวช่วยลดเลือนรอยดำจากสิวได้ผล
ยารักษาสิวจากธรรมชาติ ตัวช่วยลดเลือนรอยดำจากสิวได้ผล

1.น้ำมะนาว

การลดเลือนรอยสิวให้จางลง เราสามารถใช้น้ำมะนาวได้ เป็นวิธีรักษาสิวสูตรธรรมชาติ เพราะน้ำมะนาวมีค่าเป็นกรดโดยจะช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียบนผิวได้เป็นอย่างดี และยังทำหน้าที่ในการผลัดเปลี่ยนเซลล์ผิว ทำให้รอยสิวดำๆ จางลง แต่ก่อนใช้อย่าลืมผสมน้ำมะนาวกับน้ำเปล่าให้กรดของมันเจือจางลงสักเล็กน้อยนะคะ ไม่งั้นอาจจะทำให้ผิวหน้าแสบระคายเคืองเกินไปได้ สำหรับในส่วนของการรักษารอยสิวด้วยน้ำมะนาว ให้แต้มน้ำมะนาวลงไปบนรอยสิวปล่อยทิ้งไว้ประมาณ 2 ชั่วโมงจึงล้างออก

2.เจลว่านหางจระเข้

หน้าร้อนแบบนี้ ผิวสาวมักเผชิญกับปัญหาผิวคล้ำเสียจากแดดหรือผิวไหม้แดดอยู่เป็นประจำ และเจลว่านหางจระเข้ก็มีคุณสมบัติช่วยปลอบประโลมปัญหาผิวดังกล่าวได้ แต่ไม่เพียงเท่านั้นนะคะ มันยังสามารถช่วยรักษารอยสิวให้จางลงได้ด้วย เพียงนำเนื้อเจลว่านหางจระเข้มาทาลงบนรอยสิวปล่อยไว้ประมาณ 30 นาทีจากนั้นล้างออกให้สะอาด ทำเป็นประจำ รอยสิวจางลงแน่นอน

ยารักษาสิวจากธรรมชาติ ตัวช่วยลดเลือนรอยดำจากสิวได้ผล
ยารักษาสิวจากธรรมชาติ ตัวช่วยลดเลือนรอยดำจากสิวได้ผล
 

 

3.มันฝรั่ง

นำมันฝรั่งมาฝานให้เป็นแผ่น จากนั้นนำมาทาลงบนรอยสิว ปล่อยไว้ 30 นาทีแล้วล้างออก ทำเป็นประจำมันฝรั่งจะช่วยรักษารอยสิวให้จางลงได้เช่นกันค่ะ

4.น้ำมันมะกอก

ก่อนใช้น้ำมันมะกอก ควรล้างหน้าให้สะอาดก่อนด้วยน้ำอุ่น จากนั้นจึงนำน้ำมันมะกอกมาทาบนใบหน้าพร้อมกับค่อยๆ นวดผิวหน้าจนทั่ว ปล่อยไว้ประมาณ 1 – 2 ชั่วโมงแล้วจึงล้างหน้าให้สะอาด การใช้น้ำมันมะกอกรักษารอยสิว นอกจากจะช่วยให้รอยสิวจางลงแล้ว ยังช่วยบำรุงผิวให้ชุ่มชื้นและเนียนนุ่มขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติอีกด้วย

ยารักษาสิวจากธรรมชาติ ตัวช่วยลดเลือนรอยดำจากสิวได้ผล
ยารักษาสิวจากธรรมชาติ ตัวช่วยลดเลือนรอยดำจากสิวได้ผล

5.แตงกวากับมะเขือเทศ

ให้นำแตงกวาและมะเขือเทศมาปั่นรวมกันจนเป็นเนื้อละเอียด จากนั้นนำมาพอกหน้าไว้ประมาณ 30 นาทีแล้วล้างออกให้สะอาด มะเขือเทศมีวิตามินเอและซี ในขณะที่แตงกวาเป็นแหล่งของวิตามินบี 1 และบี 2 เมื่อนำสองคุณค่านี้มาผสานรวมกันก็จะยิ่งช่วยลดเลือนรอยสิวให้จางลง และทำให้ผิวหน้ากระจ่างใสนวลเนียนอย่างเป็นธรรมชาติยิ่งขึ้น

6.มะละกอ

ให้นำมะละกอสุก สามารถรักษาสิวได้ โดยการนำมาปั่นจนละเอียด จากนั้นกรองเอาแต่น้ำมาทาลงบนรอยสิว หรืออาจจะทาจนทั่วใบหน้าก็ได้เช่นกัน ปล่อยไว้ประมาณ 30 นาทีแล้วล้างออกให้สะอาด ทำเป็นประจำ คุณสมบัติจากมะละกอสุกจะช่วยกระตุ้นการผลัดเปลี่ยนเซลล์ผิวเก่าให้หลุดออก ทำให้ผิวหน้ากระจ่างใสขึ้น และยังช่วยลดเลือนรอยสิวไปพร้อมๆ กันอีกด้วย

ทราบกันไปแล้วนะคะถึงวิธีรักษารอยสิวในแบบธรรมชาติ อย่าลืมหยิบเอาวัตถุดิบใกล้ตัวที่คุณหาง่ายเหล่านี้มาแต้มรอยสิว ไม่นานหรอกค่ะ ผลลัพธ์ที่คุณจะได้ค้นพบจะต้องเกิดกับคุณภายในไม่ช้าแน่นอน

ขอบคุณข้อมุลจาก http://women.sanook.com/blog/72835/

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : มีวิธีรักษาสิวอะไรบ้าง

จับตัวจริง เปิดตัว Nokia 8 มือถือเรือธง กล้องคู่ ถ่ายทำ Live แบบ Bothie ได้

จับตัวจริง เปิดตัว Nokia 8 มือถือเรือธง กล้องคู่ ถ่ายทำ Live แบบ Bothie ได้

จับตัวจริง เปิดตัว Nokia 8 มือถือเรือธง กล้องคู่ ถ่ายทำ Live แบบ Bothie ได้

แบไต๋

สนับสนุนเนื้อหา

การกลับมาอย่างยิ่งใหญ่ของ Nokia ภายใต้การดูแลของบริษัท HMD Global เผยโฉมสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่อย่าง  สมาร์ทโฟนเรือธงที่มาพร้อมระบบปฎิบัติการแอนดรอยด์เวอร์ชั่นใหม่ล่าสุดในรูปแบบ Pure Android ไร้แอปแปลกเลียนแบบ พร้อมนิยามใหม่ของการถ่ายทอดไลฟ์สไตล์ผ่านเลนส์แบบเรียลไทม์ด้วยคราวแรกของ 3 ปรากฎการแห่งของใหม่ที่เหมาะกับคนที่ถูกใจสร้างคอนเทนต์ (content creator) นอกเหนือจากนั้น ตัวเครื่องเป็นอุปกรณ์อลูมินัม บางยอดเยี่ยม พร้อมการออกตัวอย่างงาม ซ่อนเร้นไปด้วยคงทนถาวร และแนวความคิดสร้างสรรค์ Nokia 8 ดำเนินงานด้วยระบบปฎิบัติการแอนดรอยด์เวอร์ชั่นใหม่ปัจจุบัน รวมถึงส่วนประกอบที่มาพร้อมทั้งกล้องถ่ายภาพคู่แบบ Dual-Camera รวมทั้งความสามารถของ ZEISS เลนส์กล้องชั้นยอดเยี่ยมระดับโลกเพื่อตอบปัญหาการใช้งานด้านการถ่ายภาพ

 

คุณสมบัติเด่นของ Nokia 8 คือ กล้องถ่ายวีดีโอแบบคู่หรือ Dual-Sight ที่ฉีกกฎของการ Live Steaming ครั้งแรกของโลก ช่วยเพิ่มมิติของการสื่อสารแบบเรียลไทม์ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลังพร้อมกันผ่านทางโซเชียลมีเดียอย่าง Facebook หรือทาง YouTube ได้ Nokia 8 ไม่ได้เป็นเพียงนวัตกรรมที่คิดค้นเพื่อรองรับการถ่ายภาพและวิดีโอที่มีคุณภาพเท่านั้น แต่ยังเป็นนวัตกรรมที่ทำให้ผู้ใช้งานสามารถรังสรรค์เรื่องราวแห่งความประทับใจผ่าน ภาพ แสง สี และเสียง ด้วยเทคโนโลยีล่าสุดจากโนเกียไปสู่สังคมออนไลน์อย่างง่ายดายและรวดเร็วด้วยการกดพียงครั้งเดียว

นอกเหนือจากนี้ Nokia 8 ยังเป็นสมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นแรกที่รองรับเทคโนโลยีเสียงแบบ Nokia OZO Audio ที่ให้มิติเสียงแบบ 360 องศา เพื่อความสมบูรณ์ของประสิทธิภาพเสียงเหมือนกับผู้ฟังได้อยู่ที่นั่นจริงๆเหมือนเอาเทคโนโลยีในหนังฮอลลีวูด (Hollywood Technology) มาวางเอาไว้ที่ด้านบนมือของคุณ เรื่องของคุณภาพของภาพแล้วก็เสียงขนาด 4K ที่คุณรวมทั้งสหายๆบนโลกออนไลน์จะได้รับประสบการณ์ที่สมจริงสมจัง รวมทั้งยังช่วยบันทึกเสียงได้จากทุกทิศทุกทางอีกด้วย

สำหรับความพิถีพิถันในการผลิต Nokia 8 ที่ตัวเครื่องทำจากวัสดุที่เป็นอลูมิเนียมอัลลอยที่ถูกขึ้นรูปเป็นชิ้นเดียวกัน ไร้รอยต่อ ภายใต้แบบพิมพ์อลูมิเนียมเดียวกันกับรุ่น 6000 Series ซึ่งผลิตจากวัสดุที่ได้รับการคัดสรรมาเป็นพิเศษสำหรับการผลิต Nokia 8 โดยเฉพาะ มีขอบเครื่องหนาเพียง 4.6 มิลลิเมตร ส่วนตัวเครื่องความหนาเฉลี่ย 7.3 มิลลิเมตร พร้อมดีไซน์ที่สวยงาม รวมถึงจอสัมผัสที่มีคุณสมบัติสูง ผ่านกระบวนการขัดเงา การประกอบตัวเครื่อง และระบบการทำงานด้วยความใส่ใจในรายละเอียดในทุกขั้นตอนของกระบวนการผลิตกว่า 20 ชั่วโมง นอกจากนี้ โทรศัพท์เครื่องนี้มาพร้อมกับขุมพลังชิปเซ็ต Qualcomm SnapdragonTM 835 Mobile Platform และระบบเพียวแอนดรอยด์ (Pure Android) ที่มีความปลอดภัยและอัพเดทอยู่เสมอ เพื่อให้ได้สมาร์ทโฟนแห่งอนาคตที่มีความสมบูรณ์ที่สุด

เพราะความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ถือเป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับโนเกีย สมาร์ทโฟน แอนดรอยด์ของโนเกียจึงมีการปรับเปลี่ยนเพื่อความทันสมัย โดยเฉพาะระบบรักษาความปลอดภัยเป็นประจำทุกเดือนเพื่อให้มั่นใจว่าผู้ใช้จะได้รับประสบการณ์ที่ดีและน่าประทับใจจาก Nokia 8 และระบบปฏิบัติการเวอร์ชั่นใหม่ๆ จากแอนดรอยด์

เหนือกว่าการเซลฟี่ มากกว่าด้วยการถ่ายแบบ “Bothie”

หลายเรื่องราวรอบตัวเรามีสองด้านให้ต้องค้นหาอยู่เสมอ เช่นเดียวกับนวัตกรรม Dual-Sight ของ Nokia 8 จะทำให้คุณสามารถสร้างสรรค์และนำเสนอภาพความประทับใจได้อย่างสมบูรณ์แบบ โดยทั้งกล้องหน้าและกล้องหลังได้ถูกพัฒนาให้มาพร้อมกับเลนส์ ZEISS สุดคมชัด นอกจากนี้ ยังเพิ่มลูกเล่นในแบบของคุณเองผ่านระบบการทำงาน Dual-Sight ซึ่งเหมาะสำหรับนักสร้างคอนเทนต์ (Content creator) ที่สามารถนำเสนอเรื่องราว และไลฟ์สไตล์ของคุณผ่านโซเชียลได้อย่างไม่ซ้ำใครในแบบ “Bothie” ซึ่งเป็นฟังก์ชั่นพิเศษของแอพลิเคชั่นกล้องในแบบเฉพาะของ Nokia 8 แฟนๆ ยังสามารถถ่ายภาพและอัพโหลดไปเก็บไว้ที่ Google Photos ได้แบบไม่จำกัดอีกด้วย

 

 

การวางจำหน่าย

Nokia 8 มีให้เลือก 4 สี ได้แก่ สีน้ำเงินเงา สีน้ำเงินด้าน สีทองแดง(ไม่มีวางจำหน่ายในไทย) และสีเงิน

เปิดราคาวางจำหน่ายในไทยราคาต่ำกว่าทั่วโลกเพียง 19,500 บาทเท่านั้น

เปิดให้ซื้อได้ตั้งแต่วันที่ 29 สิงหาคมนี้เป็นต้นไป!! ความเห็นส่วนตัว

หลังจากที่ได้ทดสอบในงานก็เรียกได้ว่าค่อนข้างประทับใจในความเร็วของระบบมือถือที่มาพร้อม Pure Android และความลื่นไหลของกล้องที่สามารถถ่ายภาพออกมาได้สวยงาม มีระบบ Live Bokeh หรือไลฟ์โบเก้ ที่คล้าย ๆ Galaxy Note 8 ที่เพิ่งเปิดตัวไปหมาด ๆ อีกต่างหาก ส่วนด้านภาพที่ออกมาระหว่างถ่ายภาพ 1 กล้องกับ 2 กล้องยังไม่แตกต่างกันมากนัก อาจจะต้องรออัปเดทเฟิร์มแวร์ตัวจริงก่อนถึงจะพอมองเห็นความแตกต่างได้

และที่ชอบมาก ๆ คือการถ่ายวีดิโอ 4K หน้า – หลังพร้อมกันได้ (ที่เขาเรียกว่า Bothie) งานนี้บอกเลยว่าภาพวีดิโอที่เก็บมาชัดแจ๋วแน่นอน แถมสามารถ Facebook, YouTube Live แบบ Bothie ผ่านโหมดกล้องได้เลยอีกด้วย แต่เป็นที่น่าเสียดายว่ายัง Live บน Fanpage ไม่ได้ในปัจจุบัน รวมไปถึงตัวเครื่องที่ทำจากอลูมิเนียมทั้งเครื่อง จับแล้วรู้สึกถึงความคงทนมาก ๆ แต่ป้องกันตกน้ำไม่ได้ (เป็น IP65 กันน้ำสาดได้อย่างเดียว)

สรุปหลังจากที่ได้จับมาเรียกได้ว่า Nokia 8 ตัวนี้มีความเป็นโทรศัพท์ระดับ Premium สมเป็นเจ้าพ่อวงการมือถือของยุคเก่าที่กำลังจะกลับมาผงาดในยุคนี้เลยก็ว่าได้ ทั้งด้านราคาที่สมน้ำสมเนื้อ (อย่าเอาไปเทียบกับ Xiaomi MI6 ก็พอ) ประสิทธิภาพเยี่ยมทั้งเครื่องและกล้อง บอกเลยว่าสาวกไม่ควรพลาดจริง ๆ ครับ

ข้อมูลทางเทคนิคของ Nokia 8

  • ข้อมูลเครือข่าย (Network)
    • – GSM: 850/900/1800/1900
    • – WCDMA: 1, 2, 5, 8
    • – TDS-CDMA: 34, 39
    • – LTE: 1, 2, 3, 4, 5, 7, 8, 20, 28, 38, 39, 40, 41
  • ความเร็วเครือข่าย
    • LTE Cat 9, 3CA, 450Mbps DL / 50Mbps UL
    • รองรับการใช้งานแบบ 2 ซิม
  • ระบบปฏิบัติการ
    • Android Nougat 7.1.1
  • หน่วยประมวลผลและชิปเซ็ต: Qualcomm® Snapdragon ™ 835
  • MSM8998 (4 * 2.45GHz Qualcmm® Kryo ™ 4 * 1.8GHz Kryo)
  • RAM 4GB LPPDDR4X
  • หน่วยความจำภายใน 64 GB พร้อมช่องเสียบการ์ด MicroSD (รองรับสูงสุด 256 GB)
  • ฟอร์มแฟคเตอร์ สแต็คพอยต์ IP54 touch monoblock พร้อมปุ่มระบบสัมผัส capacitive
  • จอแสดงผล: 5.3 “IPS LCD QHD 2560 x 1440, ความสว่างหน้าจอ 700nts, Corning®Gorilla® Glass 5, 2.5D Glass
  • เลนส์กล้องจาก ZEISS
    • กล้องหลัก: 13 ล้านพิเซล ขนาดรูรับแสง f / 2.0, แฟลชคู่
    • กล้องด้านหน้า: 13 ล้านพิเซล ขนาดรูรับแสง f / 2.0, พร้อมแฟลช
  • ระบบเชื่อมต่อ
  • ระบบเซ็นเซอร์: ประเภท C, USB3.1 Gen 1 (5Gbps)
    • ช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มม.
    • เซ็นเซอร์วัดแสงรอบข้าง
    • เครื่องวัดความใกล้เคียง, เครื่องวัดความเร็วในการวัด, เข็มทิศ E, เข็มหมุน, Fingerprint Sensor
  • แบตเตอรี่
    • ประกอบด้วยแบตเตอรี่ 3090 mAh พร้อมQualcomm® Quick Charge ™ 3.0
      (18 วัตต์, 5V / 2.5A, 9V / 2A, 12V / 1.5A)
  • ฟังก์ชั่นมัลติมีเดีย
    • รองรับไฟล์เสียงแบบ MP3, M4A, AAC, OGG, WAV, AMR, AWB (AMR-WB), FLAC, MIDI (MID, MIDI, XMF, MXMF, IMY, RTTTL, RTX, OTA)
    • รองรับไฟล์วิดีโอแบบ MP4, 3GP, 3G2, AVI, MKV, WEBM
  • ขนาด
    • 151.5 x 73.7 x 7.9 มม. (camera bump ขนาด 0.4 มม.)
    • น้ำหนักเบา เพียง160 กรัม

รวมเรื่องราว nokia 8 ที่นี่ คลิ๊ก!!!

สนับสนุนเนื้อหา http://hitech.sanook.com/1432857/

วันพุธที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2561

ตอบ 10 คำถาม "มะเร็งต่อมลูกหมาก" ที่เจอกันได้บ่อย

ตอบ 10 คำถาม "มะเร็งต่อมลูกหมาก" ที่เจอกันได้บ่อย

ตอบ 10 คำถาม "มะเร็งต่อมลูกหมาก" ที่เจอกันได้บ่อย เกี่ยวกับ มะเร็งต่อมลูกหมาก

S! Health

สนับสนุนเนื้อหา

คุณผู้ชายหลายคนอาจจะรู้กันดีอยู่แล้วว่า มะเร็งต่อมลูกหมาก นั้นเกิดขึ้นได้อย่างไร แต่ด้วยความเราไม่อาจละเลยไม่ได้ เพราะหากเกิดความเสี่ยงขึ้น ก็หมายความว่าอาการต่างๆ ก็อาจตามมารุมเร้า ทำให้เราไม่สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ วันนี้ Sanook! Health เลยขอรวบตึงเป็น 10 คำถามเพื่อให้เราเข้าใจ และรู้วิธีป้องกันโรคนี้กันอีกครั้ง ซึ่งเป็นคำถามที่เจอกันบ่อย สงสัยกันบ่อยมาก

  1. มะเร็งต่อมลูกหมาก มีอาการอย่างไร ?
  • อาการที่จะเกิดกับระบบทางเดินปัสสาวะ

    • ไม่สามารถถ่ายปัสสาวะได้

    • ปัสสาวะต้องใช้เวลานาน ปัสสาวะติดขัด

    • ปัสสาวะบ่อย โดยเฉพาะเวลากลางคืน

    • ปัสสาวะอ่อนแรง ไม่พุ่งตามปกติ

    • อาจเกิดอาการปวดแสบระหว่างที่ถ่ายปัสสาวะ

  • ปัญหาจะเกิดกับการแข็งตัวของอวัยวะเพศ

  • มีเลือดปนออกมากับปัสสาวะ หรืออสุจิ

  • อาจเกิดอาการปวดบริเวณส่วนล่าง หรือบริเวณต้นขา

ในความเป็นจริงแล้ว มะเร็งต่อมลูกหมาก ก็ไม่ใช่เพียงโรคเดียวที่ทำให้เกิดอาการอย่างที่กล่าวมา แต่ยังมีโรคอีกหลายโรคที่ทำให้เป็นแบบนั้นได้เช่นกัน อาทิ ต่อมลูกหมากอักเสบ ต่อมลูกหมากโต หรือปัญหาสุขภาพอื่นๆ เป็นต้น หากคุณผู้ชายท่านใดที่มีอาการเหล่านี้ ควรเดินทางไปพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยหาโรคที่แท้จริงต่อไป

 

  1. เป็นมะเร็งต่อมลูกหมาก มีความเสี่ยงอย่างไร ?

ถึงแม้ในปัจจุบันจะมีหนทางรักษามะเร็งต่อมลูกหมากอยู่มาก แต่ในทางการแพทย์ก็ยังคงไม่แน่ชัดว่าจริงๆ แล้วเกิดจากสาเหตุอะไรกันแน่ ยังไม่สามารถระบุได้ว่าทำไมผู้ป่วยบางรายถึงเป็นมะเร็งต่อมลูกหมาก ในขณะที่อีกคนซึ่งมีลักษณะใกล้เคียงกันกลับไม่เป็น

จากการศึกษาพบว่า มีองค์ประกอบบางอย่างที่ส่งผลต่อการเกิดมะเร็งต่อมลูกหมาก ดังนี้

  1. อายุ : มีการพบผู้ป่วยโรคมะเร็งต่อมลูกหมากในรายที่มีอายุมากกว่า 65 ปี ส่วนในรายที่มีอายุน้อยกว่า 45 ปี ยังพบได้น้อยมาก

  2. ประวัติครอบครัว : หากมีพ่อ พี่ชาย หรือน้องชาย เป็นมะเร็งต่อมลูกหมาก โอกาสที่จะเป็นมะเร็งต่อมลูกหมากก็มีมากขึ้น

  3. เชื้อชาติ : ชาวเอเชียอย่างเราๆ ลดความกังวลลงได้ เพราะส่วนใหญ่มะเร็งต่อมลูกหมากจะพบได้ในคนแอฟริกันมากกว่าคนผิวขาว ยิ่งเอเชียก็ยิ่งเจอได้น้อยมากๆ

  4. เกิดการเปลี่ยนแปลงของเซลล์บางอย่างในต่อมลูกหมาก : หากเนื้อเยื่อภายในต่อมลูกหมากมีลักษณะ high-grade prostatic ntraepithelial neoplasia (PIN) ก็มีความเสี่ยงที่จะเป็นมะเร็งต่อมลูกหมากได้

  5. อาหาร : มีการศึกษาและผลการรายงานออกมาว่า การกินอาหารประเภทเนื้อสัตว์ และไขมันสัตว์มากๆ ก็มีโอกาสที่จะเป็นมะเร็งต่อมลูกหมากได้มากกว่าการกินอาหารประเภทผัก ผลไม้

 

  1. หากไม่มีอาการ ควรเริ่มตรวจและตรวจหาค่า PSA ตั้งแต่อายุเท่าไหร่ ?

คนจะป่วยเป็นโรคมะเร็งต่อมลูกหมากใช่ว่าจะต้องมีอาการให้เห็นเสมอไป ฉะนั้นจึงเป็นเรื่องสำคัญและจำเป็นที่จะต้องเข้ารับการตรวจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในรายที่ครอบครัว หรือเครือญาติมีประวัติการเป็นมะเร็งต่อมลูกหมาก หรือในผู้ชายที่มีอายุ 50 ปีขึ้นต้องเข้ารับการตรวจ

 

  1. ค่า PSA สูง จะเกิดจากภาวะใดได้บ้าง ?

ทุกวันนี้ การตรวจเพื่อหาค่า PSA จะใช้วิธีการดูดเจาะเลือดเพื่อช่วยคัดกรองผู้ป่วยที่เป็นโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก และด้วยการใช้วิธีนี้เอง ทำให้แพทย์พบผู้ป่วยที่เป็นมะเร็งต่อมลูกหมากในระยะแรกมากขึ้น โดยเป็นระยะที่สามารถรักษาให้หายได้ ตามปกติแล้ว ค่า PSA ที่สูงไม่ได้เกิดมาจากมะเร็งต่อมลูกหมากเพียงอย่างเดียว แต่ยังเกิดได้จากอีกหลายสาเหตุ อาทิ โรคต่อมลูกหมากโต โรคต่อมลูกหมากอักเสบ การติดเชื้อระบบทางเดินปัสสาวะ การใส่สายสวนปัสสาวะ

 

โดยทั่วไป หากค่า PSA สูงเกิน 10 ng/dl โอกาสที่จะตรวจเจอมะเร็งต่อมลูกหมากก็มีมากถึง 50% แต่หากค่า PSA อยู่ที่ระดับ 4-10 ng /dl โอกาสที่จะพบก็อยู่แค่ 20-30% ซึ่งในคนไทยแพทย์จะใช้ค่าที่มากกว่า 4 ng/ml ขึ้นไป

 

  1. เป็นต่อมลูกหมากโตแล้ว จะกลายเป็นมะเร็งต่อมลูกหมากหรือไม่ ?

โดยปกติ โรคต่อมลูกหมากโตและโรคมะเร็งต่อมลูกหมากจะเกิดในผู้ชายสูงวัย อีกทั้งอาการของทั้ง 2 โรคนี้มีความคล้ายคลึงกันมาก จำเป็นที่จะต้องเข้ารับการตรวจวินิจฉัยอย่างยิ่ง อย่างไรก็ตาม โรคทั้ง 2 นี้เป็นโรคคนละชนิดกัน จึงไม่มีโอกาสที่จะเปลี่ยนสภาพจากโรคหนึ่งไปเป็นอีกโรคหนึ่งได้

 

  1. มะเร็งต่อมลูกหมากรักษาให้หายขาดได้หรือไม่ ?

ไม่ใช่แค่เพียงมะเร็งต่อมลูกหมากเท่านั้น แต่ยังหมายความรวมถึงมะเร็งชนิดอื่นๆ ด้วย หากเป็นในระยะเริ่มแรก ก็สามารถที่จะหายขาดได้ มะเร็งต่อมลูกหมากก็จะอยู่ที่ระยะ 1 และระยะ 2

 

  1. มะเร็งต่อมลูกหมาก รักษาได้อย่างไรบ้าง ?
  • การผ่าตัด
  • การฉายรังสี
  • การใช้ฮอร์โมน

แต่จะต้องไม่ลืมที่จะติดตามการรักษาอย่างใกล้ชิด

 

  1. ผ่าตัดแบบส่องกล้อง ดีกว่า ผ่าตัดแบบดั้งเดิมอย่างไร ?

ในปัจจุบันนี้ การผ่าตัดมะเร็งต่อมลูกหมากด้วยการส่องกล้องจะทำผ่านบริเวณผนังหน้าท้อง ซึ่งคาดอีกไม่นานการรักษารูปแบบนี้จะมาแทนที่การผ่าตัดแบบแผลปิด ซึ่งมีข้อดีอยู่หลายอย่าง เช่น เสียเลือดน้อยกว่า เจ็บปวดน้อยกว่า และแผลผ่าตัดก็มีขนาดเล็กกว่า อีกทั้ง การผ่าตัดด้วยการส่องกล้องจะทำให้การเก็บเส้นประสาท Cavernous ตลอดจนกล้ามเนื้อหูรูดจะเกิดการบาดเจ็บน้อยกว่า

 

  1. การผ่าตัดมะเร็งต่อมลูกหมากด้วยหุ่นยนต์ คืออะไร ?

การผ่าตัดมะเร็งต่อมลูกหมากด้วยวิธีการใช้กล้องเจาะผ่านหน้าท้อง นับว่าเป็นวิธีที่แพทย์ใช้การอย่างแพร่หลาย เนื่องจากว่าเป็นวิธีที่ได้รับมาตรฐาน ต่อมา ก็ได้มีการนำเอาเทคโนโลยีหุ่นยนต์เข้ามาใช้ช่วยในการผ่าตัด โดยเป็นหุ่นยนต์ที่ถือกล้อง และมีแขนเป็นกลไกช่วยในการผ่าตัด ซึ่งง่ายกว่าการผ่าตัดด้วยมนุษย์ ความเหนื่อยของแพทย์จะลดน้อยลง อีกทั้งเวลาที่ใช้ในการผ่าตัดก็จะน้อยลงด้วย แต่ผลทั่วๆ ไปของการผ่าตัดด้วยการส่องกล้องและการผ่าตัดด้วยหุ่นยนต์ยังไม่มีความแตกต่างด้านการควบคุมมะเร็ง รวมถึงการผ่าตัดด้วยหุ่นยนต์ยังจะมีค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นอีกด้วย

 

  1. มะเร็งต่อมลูกหมาก ป้องกันได้หรือไม่ ?

เป็นเรื่องยากหากจะบอกว่าโรคมะเร็งต่อมลูกหมากสามารถป้องกันได้ เนื่องว่าในทางการแพทย์ก็ยังไม่รู้แน่ชัดว่าเกิดจากสาเหตุอะไร แต่ก็มีวิธีป้องกันโรคต่อมลูกหมากโต ที่ในบางกรณีก็ทำให้มีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคมะเร็งได้ หากหมั่นรับประทานอาหารที่มีสารอาหารเหล่านี้เป็นประจำ

  • สังกะสี : เป็นแร่ธาตุที่ช่วยในการสร้างฮอร์โมนเพศชาย พบได้มากในเมล็ดฟักทอง และอาหารทะเล อาทิ หอยนางรม

  • ไลโคพีน : เป็นสารอาหารในตระกูลแคโรทีนอยด์ พบได้มากในมะเขือเทศ อย่าง ซอสมะเขือเทศ หรือแม้แต่ฝรั่งขี้นก

  • เบต้าซิโตสเตอรอล : สารอาหารตัวนี้มีสรรพคุณที่ช่วยลดคอเลสเตอรอลในเลือด และช่วยป้องกันต่อมลูกหมากโต พบได้มากในถั่วเหลือง จมูกข้าวสาลี และน้ำมันข้าวโพด

  • วิตามินอี : เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ พบมากในรำบดละเอียด น้ำมันรำ ธัญพืช ถั่วเหลือง ถั่วแดง ผักกาดหอม เมล็ดทานตะวัน งา น้ำมันถั่วลิสง

 

อย่างที่บอกไปว่ามะเร็งต่อมลูกหมากยังไม่พบการวิจัยเกี่ยวกับการป้องกันการเกิดโรค แต่ก็มีการพบว่า มะเร็ง มักจะเกิดในกลุ่มผู้ป่วยที่บริโภคเนื้อสัตว์ มากกว่ากลุ่มที่บริโภคมังสวิรัติ

อ่านเพิ่มเติมได้ที่ sanook มะเร็งต่อมลูกหมาก https://www.sanook.com/health/9917/

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : มะเร็งปากมดลูก

แห่ส่องเลขคึกคัก รอยเลื้อยปริศนากลางถนน เชื่อสุดใจ

ฮือฮา..พญานาคเลื้อย ทิ้งรอยกลางถนนลาดยาง..ยาวกว่า 100 เมตร แสดงปาฏิหาริย์หน้าศาลปู่ตาบ้านฉลีก คนแห่ขอเลขเด็ดแทงหวยคึกคัก

(14 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจาก นายทวี บุญเสก กำนันตำบลตรวจ อ.ศรีณรงค์ จ.สุรินทร์ ว่าชาวบ้านต่างแตกตื่น หลังพบว่ามีรอยคล้ายรอยพญานาค เลื้อยขดไปมากลางถนนลาดยาง ที่บริเวณหน้าศาลปู่ตาบ้านฉลีก ม.5 ต.ตรวจ อ.ศรีณรงค์ จ.สุรินทร์ โดยรอยมีระยะทางยาวกว่า 100 เมตร และเริ่มซีดจางลงแล้ว แต่มีชาวบ้านสามารถบันทึกภาพได้อย่างชัดเจนเมื่อช่วงค่ำคืนที่ผ่านมา

โดยรอยมีรูปร่างสมบูรณ์ คือ มีส่วนหัว ลำตัว และหางอีกด้วย ประกอบกับที่พบรอยพญานาคดังกล่าว ปรากฏอยู่ตรงบริเวณหน้า ศาลปู่ตาบ้านฉลีก ชาวบ้านจึงเชื่อว่าเป็นปาฏิหาริย์ของพญานาคปรากฏให้เห็นซึ่งรอยนั้นมีลักษณะเปียกชื้น เลื้อยขดไปมาบนถนนลาดยาง ชาวบ้านและผู้สื่อข่าว จึงลองขูดรอยพญานาค มาดมพิสูจน์ดูปรากฏว่า มีกลิ่น คาวๆ หอมๆ คล้ายสมุนไพรโบราณ

ห่างจากศาลปู่ตาบ้านฉลีก ออกไปประมาณ 100 เมตร บริเวณสะพานคลองส่งน้ำบ้านฉลีก ที่บริเวณทุ่งนาข้าวของชาวบ้าน พบร่องรอยการแหวกกอข้าว ลักษณะเหมือนงูขนาดใหญ่เลื้อยผ่านเป็นทางยาว และขดเคี้ยว ชาวบ้านต่างพากันยกมือไหว้ และพากันโทรศัพท์มือถ่ายรูปไว้ ขณะที่ชาวบ้านส่วนใหญ่ถึงกับนั่งคุกเข่า กราบขอพร พญานาคช่วยประทานโชค ลาภ หวังให้ช่วยปลดหนี้สิน

หลังทราบข่าว กลุ่มชาวบ้านฉลีก ม.5 ต.ตรวจ อ.ศรีณรงค์ และชาวบ้านหมู่บ้านข้างเคียง และนักเสี่ยงโชคจากทั่วสารทิศ ต่างทยอยเดินทาง นำดอกไม้ ธูปเทียน และแป้งมาทาบนพื้นที่ถนนลาดยางที่ปรากฏรอยพญานาค เพื่อขอ บริเวณด้านหน้าศาลปู่ตาบ้านฉลีกเป็นจำนวนมาก

นางสาวศศิธร อายุ 20 ปี ผู้เห็นรอยพญานาคเป็นคนแรก กล่าวว่า ที่แรกมีน้าคนหนึ่งเป็นคนเห็น โทรตามให้ตนมาดูกับแม่ เวลาประมาณ 20.00 น.ที่เขาโทรตาม พอมาเห็นก็เป็นจริง ก็เลยโทรศัพท์โทรตามพ่อซึ่งเป็นผู้ใหญ่บ้านฉลีกมาดู และได้เรียกชาวบ้านมาดู รอยยังเปียกชื้นอยู่ ก็เลยลองดมดูว่ามันเป็นกลิ่นอะไร พอดมดูเป็นกลิ่นคาวๆ คลายๆ โคลน

กระทั่งเวลาประมาณ 21.00 น. วันเดียวกันนั้น มีทหารผ่านทางมากว่า 10 นาย และมีทหารยศจ่าคนหนึ่งเดินมาถามตนว่า ปกติท่านขึ้นมาทุกปีไหม ตนก็ตอบไปว่าไม่ได้ขึ้นทุกปีแต่ลักษณะแบบนี้ ไม่เคยมี ปกติจะขึ้นมาบนผิวน้ำ และขึ้นมาตามวัด เป็นครั้งแรกที่ขึ้นมาบนถนน และมีความยาว มีทั้งหัวและหาง หัวจะอยู่ทางทิศตะวันตก

นางจวน อายุ 63 ปี ชาวบ้านฉลีก กล่าวว่า กลิ่นคาว เหมือนเนื้อเยื่อของสัตว์อะไรสักอย่าง เหม็นคาว รอยที่เห็นเหมือนรอยพญานาคเลย ถ้างูจะไม่มีหนวด คางยาวแบบนี้ ตรงบริเวณหัว มีหน่อ เป็นเส้นยาว 2 หน่อ ชาวบ้านที่นี้เชื่อว่าเป็น รอยพญานาค บางคนที่เขาไม่เชื่อก็ว่า รอยอะไรไม่รู้บ้าไปเอง ชาวบ้านเคยเห็นเมื่อปีที่แล้ว รอยเหมือนพญานาคเลย ตนเคยเห็นมาแล้วกับตาที่ฝาย เมื่อปีที่แล้ว

ขณะที่ นายสมพงษ์ เลื่อมใส ผู้ใหญ่บ้านฉลีก กล่าวว่า เมื่อปีก่อนชาวบ้านเห็นเขาปรากฏกายขึ้น ลักษณะเป็นงูเลื้อยขดเคี้ยวอยู่เหนือน้ำ ความยาว 200 กว่าเมตร ตอนแรกก็ไม่เชื่อก็เลยอยากจะพิสูจน์ว่า มันคืออะไร สุดท้ายเขาก็อยู่นิ่ง สีสะท้อนในน้ำออกสีทอง อยู่ภายในฝายบ้านฉลีก ห่างจากจุดนี้ไปก็ประมาณ 50 เมตร

สิ่งที่เห็นเป็นบางสิ่งที่ขดคี้ยวอยู่กลางลำน้ำที่เขาขุดคลองหน้าฝาย มองเห็นเป็นรูปเลื้อยสีเหลืองอร่าม ไม่เคยเห็นมาก่อน พึ่งมาเห็นช่วง 3-4 ปีมานี้นี่เอง แต่ก่อนจะมีปรากฏการณ์ แสงพุ่งจากน้ำขึ้นสู่ท้องฟ้า เป็นประเพณี ชาวบ้านที่นี่ถือว่าเป็นเรื่องปกติ แต่ที่โผล่มาบนถนนลาดยางนับว่าเป็นครั้งแรกมีรูปขดเคี้ยวเหมือนงู

ผู้สื่อข่าวยังรายงานด้วยว่า ชาวบ้านบางคนได้นำภาพเหตุการณ์ดังกล่าวไปบอกต่อ และมีการทำพิธีขอหวยพญานาค ซึ่งตีเป็นเลข เด็ด 25 และ 45 ชาวบ้านต่าง แห่พากันไปซื้อหวยกันจำนวนมาก เนื่องจากเป็นวันใกล้หวยออกพอดี

ผลสลาก http://news.sanook.com/lotto/

สลากกินแบ่งรัฐบาล 16 กันยายน 2559 http://news.sanook.com/lotto/check/16092559/

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล

สัมผัสแรกของ Nokia 8 มือถืออีกรุ่นที่สามารถทำให้เงินในกระเป๋าสั่นไปหมด

ก่อนหน้านี้คงทราบกันดีกว่า  โทรศัพท์มือถือเรือธงที่มีการนำผู้ส่งเสริมเก่าแล้วก็เทคโนโลยี ย้ำการถ่ายภาพที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนได้เปิดตัวบนโลกช่วงวันที่ 16 ส.ค. แต่ว่าตอนวันที่ 28 เดือนสิงหาคม โนเกียก็เปิดตัว Nokia 8 อย่างเป็นทางการ แล้วมันจะดีงามแค่ไหน วันนี้ก็เลยจะมาพรีวิวกันใหม่ๆนี้มุมที่คุณต้องการทราบก่อนพบกับรีวิวเต็มเร็วๆนี้

และแน่นอนว่าทางทีมงาน Sanook! Hitech ก็ไม่พลาดที่จะเกาะติดกับทีมงาน HMD เพื่อการนำเครื่องมาพรีวิวให้เพื่อนๆ อ่านกันครับ มาดูกันครับว่าเบื้องต้น Nokia 8 จะมีอะไรดีบ้าง

ข้อมูลทางเทคนิคของ Nokia 8

  • ข้อมูลเครือข่าย (Network)
  • GSM850/900/1800/1900
  • WCDMA1, 2, 5, 8
  • TDS-CDMA34, 39
  • LTE1, 2, 3, 4, 5, 7, 8, 20, 28, 38, 39, 40, 41
  • ความเร็วเครือข่าย
  • LTE Cat 9, 3CA, 450Mbps DL 50Mbps UL
  • รองรับการใช้งานแบบ 2 ซิม
  • ระบบปฏิบัติการ
  • Android Nougat 7.1.1
  • หน่วยประมวลผลและชิปเซ็ต: Qualcomm® Snapdragon ™ 835
  • MSM8998 (2.45GHz Qualcmm® Kryo ™  1.8GHz Kryo)
  • RAM 4GB LPPDDR4X
  • หน่วยความจำภายใน 64 GB พร้อมช่องเสียบการ์ด MicroSD (รองรับสูงสุด 256 GB)
  • ฟอร์มแฟคเตอร์ สแต็คพอยต์ IP54 touch monoblock พร้อมปุ่มระบบสัมผัส capacitive
  • จอแสดงผล: 5."IPS LCD QHD 2560 x 1440, ความสว่างหน้าจอ 700nts, Corning®Gorilla® Glass 5, 2.5D Glass
  • เลนส์กล้องจาก ZEISS
  • กล้องหลัก: 13 ล้านพิเซล ขนาดรูรับแสง f 2.0แฟลชคู่
  • กล้องด้านหน้า: 13 ล้านพิเซล ขนาดรูรับแสง f 2.0, พร้อมแฟลช
  • ระบบเชื่อมต่อ
  • ระบบเซ็นเซอร์: ประเภท C, USB3.1 Gen 1 (5Gbps)
  • ช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มม.
  • เซ็นเซอร์วัดแสงรอบข้าง
  • เครื่องวัดความใกล้เคียงเครื่องวัดความเร็วในการวัดเข็มทิศ E, เข็มหมุนFingerprint Sensor
  • แบตเตอรี่
  • ประกอบด้วยแบตเตอรี่ 3090 mAh พร้อมQualcomm® Quick Charge ™ 3.(18 วัตต์, 5V 2.5A, 9V 2A, 12V 1.5A)
  • ฟังก์ชั่นมัลติมีเดีย
  • รองรับไฟล์เสียงแบบ MP3, M4A, AAC, OGG, WAV, AMR, AWB (AMR-WB), FLAC, MIDI (MID, MIDI, XMF, MXMF, IMY, RTTTL, RTX, OTA)
  • รองรับไฟล์วิดีโอแบบ MP4, 3GP, 3G2, AVI, MKV, WEBM
  • ขนาด:
  • 151.5 x 73.7 x 7.9 มม. (camera bump ขนาด 0.4 มม.)
  • น้ำหนักเบา เพียง160 กรัม

รูปร่างของ Nokia 8

 

เป็นมือถือที่มองด้านหน้าแล้ว มีความคล้ายกับ Nokia 5 และ Nokia 6 ที่เปิดตัวก่อนหน้านี้ เพียงแต่ขนาดหน้าจอของมัน แทรกกลางระหว่าง 2 รุ่นคือ 5.3 นิ้ว ความละเอียด Quad HD (2560x1440) โดยเหตุผลที่เลือกใช้หน้าจอขนาดนี้เพราะ เขาบอกว่าคนใช้งานจะจับถนัดและกดทุกอย่างได้ลงตัวที่สุด เมื่อลองใช้งานแล้วพบว่า มีความจริงอยู่ 85% เลยทีเดียว

ส่วนบนมีกล้องหน้าขนาด 13 ล้านพิกเซล พร้อมกับเลนส์จาก Zeiss ซึ่งเป็นพันธมิตรเก่าแก่ของ Nokia

ด้านล่างมีปุ่ม Back, Home พร้อมกับระบบสแกนลายนิ้วมือ และมีปุ่ม Recent Apps สามารถสลับ Apps ที่เปิดก่อนหน้าได้เช่นกัน แต่ว่า หน้าจอเล็กไปทำให้เมื่อต้องกดกด Multi Tasking อาจจะไม่เหมาะสมเท่าไหร่

ด้านข้าง (รวมถึงด้านหลัง) เลือกใช้วัสดุอะลูมิเนียมเกรด 7,000 ที่เรียกได้ว่าหนาแน่นและออกแบบดี เทคโนโลยีการพ่นสีนั้นมีการชุบเคลือบสานทั้งแบบผิวด้าน และมันวาว ให้เลือก ฝั่งซ้ายมีช่องซิม ฝั่งขวามีปุ่มกดม ปุ่มปรับระดับเสียง

ด้านบนมีช่องเสียบหูฟัง ด้านล่างมีช่องเสียบ USB-C พร้อมกับลำโพง และมีไมโครโฟนให้

ด้านหลัง ออกแบบได้เหมือนกับ Nokia 5 ไม่มีผิด แต่ผิวสัมผัสแตกต่างชัดเจน พร้อมกับมีกล้องหลังคู่ เลนส์ Zeiss พร้อมกับ LED Flash และมี Laser Focus ให้เลือกด้วยเช่นกัน ภาพรวมเป็นเครื่องที่น้ำหนักเบา จับต้องได้ง่ายและมีความสวยงามและแข็งแรงในตัว

 

ประสิทธิภาพของ Nokia 8

 

เบื้องต้นทีจากที่ได้กดทดสอบประสิทธิภาพของ Nokia 8 ที่ใช้ CPU Qualcomm Snapdrahgon 835, RAM 4GB ความจำในตัว 64GB ทำได้ออกมาที่ 177,295 คะแนน ถือว่าทำได้ดีเกาะกลุ่มบน เพียงแต่น่าเสียดายถ้าได้รุ่น RAM 6GB ก็คงจะดีกว่านี้

ส่วนเรื่องของความลื่นไหลในการใช้งาน ถือว่าทำได้ดี เพราะเป็น Pure Android ที่ไม่ได้มีการปรับแต่งแต่อย่างใด น่าเสียดายที่เปิดตัวเร็วกว่า Android Oreo ออกมาเท่านั้นเอง แต่ความร้อนถึงแม่เขาจะบอกว่ามีเทคโนโลยีระบาความร้อนจาก Heat Pipe แล้ว แต่ดูเหมือนไม่ได้ช่วยอะไรให้ดีขึ้นเท่าไหร่

ลูกเล่นเด่น ๆ ที่ได้ลอง

เนื่องจากได้ลองกันประมาณ 30 นาทีเท่านั้น ทำให้สามารถเล่นฟีเจอร์ส่วนใหญ่จะเป็นที่กล้องที่สามารถกดเล่นได้ดังนี้

  • Dual Sight Mode เป็นโหมดที่สามารถปรับให้กล้องหน้าและหลังให้สามารถทำงานร่วมกันได้ และสามารถถ่ายวีดีโอ หรือจะ Live หรือจะถ่ายภาพนิ่งก็ได้เช่นกัน แต่ว่า ระยะต้องเหมาะสมและจัดองค์ประกอบให้ดี ถึงจะออกมาสวย และดู ๆ ไปแล้วก็เหมาะกับการสัมภาษณ์คนลงข่าวได้ไม่น้อย
  • กล้องหลังของ Nokia 8 มีความสามารถเยอะ ทั้งสามารถปรับเรื่องความสดของสี, หรือขาวดำ หรือให้กล้องสีทำงานอย่างเดียว พร้อมกับมีระบบป้องกันภาพสั่นไหว เรียกได้ว่าลงตัว
  • กล้องหน้าคมชัดมากเพราะมีขนาด 13 ล้านพิกเซล และมี Beauty Mode ปรับได้ 20 ระดับ ถือว่ามากพอสมควร
  • Nokia OZO เป็นระบบอัดเสียงคุณภาพสูงเพราะสามารถใช้ไมโครโฟนทั้งหมด 3 ตัวอัดเสียงได้ และมีการปรับให้เสียงเข้ามาจากด้านใดด้านหนึ่งก็ได้เช่นกัน

  • UI ของกล้อง หลายคนเข้าใจว่า เป็นของ Nokia PureView แต่ข่าวร้ายคือ HMD เผยว่า PureView ยังเป็นของ Microsoft อยู่ ทำให้ UI ใหม่ ครบเครื่อง แต่ยังใช้งานยากและดูงง ๆ อยู่ ต้องอาศัยความเข้าใจเล็กน้อย
  • ลูกเล่น Pure Android มันเป็นจุดเด่นที่ทำให้เครื่องลื่นไหลดี

(ตัวอย่างภาพถ่ายจาก Nokia 8)

จากที่ได้ลองสั้น ๆ ถือว่าเป็นความลงตัวทั้งดีไซน์ของเครื่องที่สวยเบาและแข็งแรง ที่ได้การยืนยันจากทีมโนเกียเอง และความสามารถของมันที่มองแล้ว เหมาะกับคนที่อยากเป็น Content Creator หรือ ผู้สร้างเนื้องหาบนโลกออนไลน์จากฟีเจอร์ กล้องถ่ายภาพพร้อมกัน 2 ตัว ซึ่งตรงกับที่ได้สรุป 4 ข้อโดดเด่นของ Nokia 8 ไปก่อนหน้านี้

ส่วนราคานั้นถือว่าออกมาดีมาก อยู่ที่ 19,500 บาท เท่านั้นเองเรียกได้ว่าอีกตัวเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ ในเวลานี้อย่างมากเลยล่ะ

สุดท้ายนี่เป็นแค่ลองสั้น ๆ เพียง 30 นาที แต่ถ้ามาอยู่ร่วมกันนาน ๆ กว่านี้จะเป็นอย่างไร ติดตามในตอนต่อไปกับรีวิวที่ Sanook! Hitech เร็ว ๆ นี้

รวมเรื่องราว nokia 8 ที่นี่ คลิ๊ก!!!

สนับสนุนเนื้อหา http://hitech.sanook.com/1432889/